ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐในแง่สินทรัพย์ รายงานผลประกอบการขาดทุนเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน โดยมาจากการขาดทุนเงินกู้และการลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีอย่างน้อย 1.32 หมื่นล้านดอลลาร์
ซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยในแถลงการณ์ว่า ธนาคารขาดทุนสุทธิ 2.8 พันล้านดอลลาร์ หรือ 60 เซนต์ต่อหุ้นในไตรมาสสาม เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ธนาคารมีกำไร 2.2 พันล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 44 เซนต์ อย่างไรก็ดี ตัวเลขขาดทุนไตรมาส 3/51 ยังดีกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นว่า ซิตี้กรุ๊ปจะขาดทุน 3.8 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ วิครัม แพนดิท ซีอีโอของซิตี้กรุ๊ป ไม่สามารถฟื้นความสามารถในการทำกำไรของธนาคาร หลังจากที่ธนาคารต้องขาดทุน 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์อันเป็นผลมาจากการล้มลงของตลาดที่อยู่อาศัย โดยความพยายามของเขาที่จะเข้าซื้อธุรกิจธนาคารของวาโชเวีย คอร์ป ซึ่งมีเงินฝากอยู่เกือบ 4.5 แสนล้านดอลลาร์ ได้ถูกขัดขวางโดยเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค ซึ่งยื่นข้อเสนอซื้อกิจการวาโชเวียในราคาที่สูงกว่า ส่งผลให้ซิตี้กรุ๊ปต้องหาทางกู้ชีพตัวเองต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์ที่ชาวอเมริกันลดการใช้จ่าย
บลูมเบิร์กรายงานว่า หุ้นของซิตี้กรุ๊ปบวกขึ้นแตะ 16.90 ดอลลาร์ในการซื้อขายล่วงหน้าก่อนที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเปิดทำการวันพฤหัสบดี จากระดับปิดของวันพุธที่ 16.23 ดอลลาร์ โดยซิตี้กรุ๊ปมีมูลค่าตลาดรั้งอัน 4 ตามรั้งเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, แบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป และเวลส์ ฟาร์โก หลังจากที่มูลค่าตลาดของซิตี้กรุ๊ปหดหายไปแล้ว 45% ในปีนี้