ผลสำรวจเผยเศรษฐกิจจีนอาจขยายตัวช้าสุดในรอบเกือบ 4 ปีในไตรมาส 3 ของปีนี้ กดดันให้รัฐบาลต้องลดดอกเบี้ยและเพิ่มการใช้จ่ายของภาครัฐให้มากขึ้น เพื่อป้องกันมิให้เศรษฐกิจของประเทศถดถอย
ผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ 12 ท่านซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) อาจมีการขยายตัว 9.7% ในไตรมาส 3 ลดลงจาก 10.1% ในไตรมาส 2 ส่วนตัวเลขอย่างเป็นทางการจะได้รับการเปิดเผยในวันที่ 20 ต.ค.นี้
ทางการจีนได้ประกาศลดดอกเบี้ยไปแล้ว 2 ครั้งในช่วงเดือนที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังผ่อนปรนมาตรการปล่อยกู้เพื่อกระตุ้นภาคการส่งออกที่ชะลอตัวลง โดยนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายต้องใช้มาตรการอื่นๆเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ
"เศรษฐกิจสหรัฐและสหภาพยุโรปซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของจีนกำลังซบเซาอย่างหนัก" ไอแซค เหม็ง นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก BNP Paribas SA ในปักกิ่ง กล่าว "ดังนั้นเราจำเป็นต้องผ่อนปรนและใช้มาตรการต่างๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ"
ภาคการผลิตของจีนได้รับผลกระทบอย่างหนักในไตรมาส 3 อันเป็นผลมาจากยอดสั่งซื้อสินค้าส่งออกที่ลดลง รวมถึงการปิดโรงงานในช่วงจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ส่งผลให้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนมีการขยายตัวช้าสุดในรอบ 6 ปีในเดือนส.ค.
นอกจากนั้นตลาดหุ้นที่ร่วงหนักและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซายังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดการขยายตัวทางเศรษฐกิจเช่นกัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน