กลุ่มกองทุนเฮดจ์ฟันด์อาจปรับลดพนักงาน 10,000 ตำแหน่งในปีนี้ เนื่องจากกองทุนกำลังเผชิญปัญหาขาดทุนรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี
ไมเคิล คาร์พ ประธานฝ่ายบริหารของบริษัทวิจัย Options Group ในนิวยอร์กกล่าวว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์ได้ปรับลดพนักงานไปแล้ว 3,000-5,000 ตำแหน่ง จากจำนวนพนักงานทั่วโลกราว 150,000 ตำแหน่ง โดยยอดการปรับลดพนักงานอาจพุ่งขึ้นเป็น 2 เท่าในช่วงสิ้นปี 2551
คาร์พกล่าวว่า "เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะการที่กองทุนจะลงทุนเพื่อหวังให้มีกำไรกลับคืนมาในยามที่กำลังหาลู่ทางปรับลดต้นทุนค่าใช้จ่ายนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือต้องปลดพนักงานออก"
ทั้งนี้ บริษัท Hedge Fund Research Inc เปิดเผยว่า กองทุนเฮดจ์ ฟันด์รายงานตัวเลขขาดทุนเฉลี่ยที่ 17% ในปีนี้จากปัญหาตลาดซับไพรม์ที่ทำให้เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลก ซึ่งหมายความว่าบริษัทหลายแห่งไม่สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมได้เหมือนในอดีต ซึ่งโดยปกติแล้วกองทุนจะมีรายได้จากการลงทุนเพิ่มขึ้น 20% ขณะที่ค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการที่มีสัดส่วน 2% ของสินทรัพย์ปรับตัวลดลง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักลงทุนได้ถอนเม็ดเงินลงทุนจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลในปี 2543