นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐจะร่วงลง 2.6% แตะระดับ 872,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐยังคงถดถอยแม้ในช่วงก่อนเกิดวิกฤตการณ์ในตลาดการเงิน
เทอร์ริน กริฟฟิธส์ นักวิเคราะห์จากบริษัท California Credit Union League กล่าวว่า "บริษัทก่อสร้างบ้านยังคงเจอโจทย์ยากๆในการดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อ หลังจากตลาดหุ้นทรุดตัวลงอย่างหนักในเดือนนี้ ประกอบกับธนาคารกำหนดคุณสมบัติของผู้กู้อย่างเข้มงวดขึ้น ส่งผลให้การเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยากขึ้นด้วย เราคาดว่าตัวเลขการก่อสร้างที่ร่วงลงจะยังคงส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไปจนถึงปีพ.ศ.2552
"เราคาดว่าตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะลดลงอีกใน 2-3 เดือนข้างหน้า เนื่องจากวิกฤตการณ์สินเชื่อยังไม่คลี่คลายและเศรษฐกิจชะลอตัวลง สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ยังคงย่ำแย่"
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะรายงานตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านประจำเดือนก.ย.ในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนต.ค. โดยนักวิเคราะห์โพลล์บลูมเบิร์กคาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนดังกล่าวจะร่วงลงแตะระดับ 65 จุด จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 70.3 จุด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์เป็น 1 ในข้อมูลเศรษฐกิจที่นักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กให้ความสำคัญและจับตาดูอย่างมาก โดยวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง 733.08 จุด หรือ 7.87% ปิดที่ 8,577.91 จุด หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ร่วงลง 1.2% แตะระดับ 3.755 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีพ.ศ.2548 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.7%