"ฟอร์ด"คาดยอดขายรถในตลาดจีนปีหน้าโตไม่ถึง 10% เหตุศก.ทรุดฉุดอุปสงค์ชะลอตัว

ข่าวต่างประเทศ Friday October 17, 2008 16:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ฟอร์ด มอเตอร์ โค (Ford Motor Co) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสองของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายยานยนต์ในจีนอาจขยายตัวต่ำกว่าระดับ 10% ในปีหน้า เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เลวร้ายได้กดดันให้อุปสงค์รถยนต์ชะลอตัว

เจฟฟรีย์ เฉิน ประธานฟอร์ดในประเทศจีนเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในตลาดจีนอาจขยายตัวอยู่ระหว่าง 6-10% ในปีนี้ และอาจขยายตัวได้ไม่ถึง 10% ในปี 2552

"ยอดขายรถยนต์ในตลาดจีนจะมีกระเตื้องขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า" เขากล่าว

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า วิกฤตการเงินที่มีต้นเหตุจากสหรัฐได้ส่งผลกระทบให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงถ้วนหน้า โดยดัชนี CSI 300 ตลาดหุ้นจีนดำดิ่งลงไปถึง 66% ในปีนี้ ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศจีนซึ่งถือเป็นตลาดรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในเอเชียทรุดตัวลงในเดือนก.ย.หลังจากที่ดิ่งลงเป็นครั้งแรกในรอบสามปีเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา

"เศรษฐกิจคงต้องหวังพึ่งปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะช่วยพลิกฟื้นให้อุตสาหกรรมยานยนต์กลับมาคึกคักได้ในปีหน้า" เยล จาง ผอ. CSM Asia กล่าว "ตัวเลขการใช้จ่ายด้านธุรกิจยานยนต์จะยังไม่ดีขึ้นจนกว่าจะเศรษฐกิจจะสามารถฟื้นตัวได้อีกครั้ง"

ทั้งนี้ CSM คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ที่ตลาดจีนในปีนี้จะขยายตัวที่ระดับ 8% และโตขึ้น 5-9% ในปี 2552

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายรถยนต์ของฟอร์ดในตลาดจีนขยายตัวขึ้น 7.1% จากปีก่อนหน้านี้แตะที่ 240,879 คัน แต่ตัวเลขดังกล่าวชะลอตัวลงจากระดับ 30% ในปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี ฟอร์ดจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ "Fiesta" ออกสู่ตลาดจีนในปีหน้าเพื่อหวังกระตุ้นยอดขายให้ดีขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ