พณ.ยอมลดราคาจำนำข้าวนาปีให้สอดคล้องตลาด หวั่นงบประมาณไม่พอรับจำนำ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 17, 2008 17:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนคณะกรรมการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีฤดูการผลิตปี 51/52 เพื่อสรุปราคารับจำนำข้าวนาปีให้ได้ก่อนนำเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) วันที่ 20 ต.ค. เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)สัปดาห์หน้า(21 ต.ค.) โดยต้องปรับลดราคารับจำนำให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตและราคาตลาดที่ลดลง

โดยคาดว่าราคารับจำนำข้าวที่เหมาะสมนั้น ข้าวเปลือกเจ้า 12,000 บาท/ตัน จากเดิมที่กำหนดไว้ 14,000 บาท/ตัน, ข้าวเปลือกหอมมะลิยังคงเดิมที่ 16,000 บาท/ตัน และข้าวเปลือกเหนียว 8,000-9,000 บาท/ตัน จากเดิมที่กำหนดไว้ 9,000-10,000 บาท/ตัน

พร้อมกันนี้จะขยายระยะเวลาการไถ่ถอนจาก 90 วัน เป็น 120 วันนับจากวันรับจำนำ ขณะที่ระยะเวลารับจำนำจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.51-28 ก.พ.52 ส่วนเป้าหมายปริมาณรับจำนำยังคงเดิมที่ 8 ล้านตันข้าวเปลือก โดยเงินที่จะใช้ในการรับจำนำนั้นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เตรียมไว้แล้วประมาณ 50,000 ล้านบาท

"เดิมเห็นควรรับจำนำตันละ 14,000 บาท เพราะเป็นข้าวเปลือกนาปีที่มีคุณภาพดีกว่าข้าวนาปรังที่ยังรับจำนำตันละ 14,000 บาท และหากรับจำนำในราคาต่ำลงรัฐจะขาดทุนทันทีกับข้าวนาปรังที่รับจำนำไว้ถึงตันละ 2,000 บาท แต่เมื่อพิจารณาถึงราคาน้ำมันที่ลดลง ต้นทุนที่ลดลงและราคาข้าวอ่อนตัวลง ก็ต้องยอมรับในราคาใหม่ ซึ่งเชื่อว่าเกษตรกรน่าจะรับได้ หากรัฐขายข้าวในสต๊อกได้ราคาดีก็จะนำเงินไปช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป" นายไชยา กล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เหตุที่ทำให้นายไชยายอมปรับลดราคารับจำนำข้าวลงเป็นเพราะได้รับการชี้แจงจากกระทรวงพาณิชย์ว่า หากรัฐบาลยังยืนยันราคาเดิมที่ 14,000 บาท จะทำให้ชาวนาแห่นำข้าวมาเข้าโครงการรับจำนำมาก เพราะราคาตลาดของข้าวเปลือกเจ้าขณะนี้อยู่ที่ 11,500 บาท/ตัน และข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ที่ 14,600 บาท/ตัน ซึ่งต่ำกว่าราคารับจำนำมาก

และอาจทำให้มีข้าวเข้าโครงการรับจำนำมากถึง 10-12 ล้านตันข้าวเปลือก จากเป้าหมาย 8 ล้านตันข้าวเปลือก ซึ่งจะทำให้รัฐไม่มีเงินรับจำนำข้าวส่วนเกิน รวมถึงไม่มีโกดังเก็บข้าว และไม่มีกระสอบบรรจุข้าวอย่างเพียงพอ จึงจำเป็นต้องปรับลดราคารับจำนำลง เพื่อให้ใกล้เคียงกับราคาตลาด และหวังจะให้ชาวนาขายข้าวในตลาดมากกว่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ