รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศใช้งบประมาณราว 1 แสนล้านดอลลาร์ในการรับประกันตราสารหนี้รูปสกุลเงินต่างประเทศให้กับสถาบันการเงินในเกาหลีใต้ และจะจัดหาเงินทุนช่วยเหลือสถาบันการเงินอีกจำนวน 3 หมื่นล้านดอลลาร์
มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือสถาบันการเงินภายในประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์สินเชื่อที่ลุกลามไปทั่วโลก ซึ่งคาดว่ามาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นเงินวอนให้แข็งค่าขึ้นด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูภาคการเงินหลังจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ขู่ว่าจะลดอันดับเครดิตเกาหลีใต้
เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา คณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของเกาหลีใต้จัดประชุมฉุกเฉินเพื่อร่างนโยบายฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ หลังจากค่าเงินวอนและตลาดหุ้นเกาหลีใต้ทรุดตัวลงอย่างหนัก และหลังจาก S&P ขู่ว่าจะลดอันดับเครดิตเกาหลีใต้ โดยนายคิม ดอง ซู รมช.คลังเกาหลีใต้เสนอแรงจูงใจด้านภาษีให้กับนักลงทุนในตลาดหุ้น เพื่อพยุงตลาดหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักถึง 37% ในปีนี้
ค่าเงินวอนเกาหลีใต้ร่วงลง 9.7%เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ให้ความช่วยเหลือเกาหลีใต้ในเดือนธ.ค. พ.ศ.2540 ขณะที่ S&P ระบุว่ามีความเป็นไปได้มากกว่า 50% ที่วิกฤตสินเชื่อทั่วโลกจะส่งผลคุกคามการกระดมทุนสกุลเงินต่างประเทศของเกาหลีใต้
นอกจากนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้วางแผนที่จะขายตราสารหนี้ในรูปสกุลเงินต่างประเทศเป็นวงเงิน 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีหน้าซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2541 เพื่อหาทางสร้างเสถียรภาพให้กับสกุลเงินวอนที่อ่อนค่าลงหนักที่สุดในบรรดาสกุลเงินเอเชียในปีนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการรับประกันหนี้สินมูลค่า 15 ล้านล้านวอน (1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ของรัฐบาลในปีหน้า โดยจะใช้เม็ดเงินในกองทุนเพื่อเสถียรภาพตามความจำเป็นเพื่อประคับประคองเงินวอนไม่ให้แกว่งตัวพุ่งขึ้นหรือร่วงลงรุนแรงเกินไป
ทั้งนี้ ทุนสำรองเงินต่างประเทศของเกาหลีใต้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ร่วงลง 2.46 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐไปอยู่ที่ระดับ 2.397 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายทางการเงินได้นำเงินดังกล่าวมาใช้เพื่อสกัดกั้นการอ่อนค่าลงของเงินวอน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน