ผู้ค้าทุกรายประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินลงอีกลิตรละ 0.60 บาท และน้ำมันดีเซลอีกลิตรละ 0.80 บาท โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันพรุ่งนี้ (21 ต.ค.) เป็นต้นไป
การปรับราคาครั้งนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกตามสถานีบริการน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลวันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ เบนซิน 95 ลิตรละ 33.39 บาท, เบนซิน 91 ลิตรละ 30.39 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 23.89 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 23.09 บาท และดีเซล ลิตรละ 23.94 บาท
นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บมจ.ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า จากความวิตกว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่แพร่ขยายทั่วโลก อาจกดดันให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง ส่งผลทำให้สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกขณะนี้ยังคงมีแนวโน้มอ่อนตัวลง
ล่าสุดวันนี้ ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 61 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล, น้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ เบนซินอยู่ที่ระดับ 74.92 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับ 76.74 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ดังนั้น ปตท.จึงพิจารณาปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกทุกชนิดลง โดยปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินลงอีก 60 สตางค์/ลิตร และปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มดีเซลลงอีก 80 สตางค์/ลิตร
นายปรัชญา กล่าวว่า จากปัญหาสภาพเศรษฐกิจรอบโลกตกต่ำ ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงตามไปด้วยเช่นกัน โดยความต้องการใช้น้ำมันของประเทศสหรัฐอเมริกาฯ ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 18.75 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่มีรายงานปริมาณสำรองน้ำมันเพิ่มขึ้น
"ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ปตท.ได้ขานรับสัญญาณดังกล่าวโดยลดราคาขายปลีกน้ำมันให้ผู้บริโภคต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 9 รวมกลุ่มน้ำมันเบนซินลดลงถึง 4.80 บาท/ลิตร กลุ่มน้ำมันดีเซลลดลงถึง 6.80 บาท/ลิตร (นับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.51)" นายปรัชญา กล่าว
โดยหากนับตั้งแต่ ก.ค. 51 เป็นต้นมา ปตท.ปรับลดราคาลงต่อเนื่องถึง 29 ครั้ง รวมลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินลงทั้งสิ้น 15.30 บาท/ลิตร และกลุ่มดีเซลลดลง 20.30 บาท/ลิตร
อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตามมองสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมัน โดยเฉพาะการประชุมฉุกเฉินของกลุ่มโอเปกในวันที่ 24 ต.ค.51 ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งอาจมีการพิจารณาให้ลดปริมาณการผลิตลงเพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันไว้