ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ข่าว"เบอร์นันเก้"จี้ใช้แผนพยุงศก.ฉบับสอง หนุนดอลล์พุ่งแรง

ข่าวต่างประเทศ Tuesday October 21, 2008 07:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้ใช้มาตรการพยุงเศรษฐกิจฉบับที่สอง ทั้งนี้ นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐอย่างคึกคักแม้อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์ร่วงลงก็ตาม

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบเงินเยนที่ระดับ 101.84 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 101.65 เยน/ดอลลาร์ และแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบเงินฟรังค์ที่ระดับ 1.1507 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1369 ฟรังค์/ดอลลาร์

เงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3321 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3407 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.7140 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.7285 ดอลลาร์/ปอนด์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.7023 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.6887 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.6243 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6117 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

แมทธิว สตรอส หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนด้านปริวรรตเงินตราจากบริษัท RBC Capital กล่าวว่า เบอร์นันเก้แถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณแห่งสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้ โดยเขาสนับสนุนให้สหรัฐใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่สองเพื่อลดภาวะตึงตัวในระบบการเงินและกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้กังวลว่ามาตรการดังกล่าวอาจทำให้งบประมาณของรัฐบาลสหรัฐขาดทุนอีกเป็นจำนวนมาก

ดอลลาร์ได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์วิจัยเอกชนของสหรัฐที่ระบุว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ย.พุ่งขึ้นเกินคาด 0.3% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนและตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.2% ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจยังพอมีความหวังที่จะฟื้นตัวได้บ้าง

สตรอสกล่าวว่า ดอลลาร์สามารถต้านทานปัจจัยลบที่เกิดจากอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์ที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ โดยอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์สกุลเงินดอลลาร์ประเภท 3 เดือนที่ตลาดลอนดอน หรือ Libor ร่วงลง 0.36% แตะระดับ 4.06%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ