"เบอร์นันเก้"จี้คองเกรสใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับสอง หนุนดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 400 จุด

ข่าวต่างประเทศ Tuesday October 21, 2008 09:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณแห่งสภาคองเกรสว่า "เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลงอีกใน 2-3 ไตรมาสข้างหน้าและมีปัจจัยมากมายที่จะฉุดรั้งเศรษฐกิจให้เผชิญช่วงขาลง ด้วยเหตุนี้ สภาคองเกรสจึงควรพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่สองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้"

นับเป็นครั้งแรกที่เบอร์นันเก้แสดงท่าทีสนับสนุนให้สภาคองเกรสเร่งใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจริงจัง โดยเขากล่าวว่ามาตรการฉบับที่สองจะมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายได้เหมือนกับฉบับแรกมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับสภาคองเกรส แต่ย้ำว่ามาตรการฉบับนี้มีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ

"เศรษฐกิจของเราชะลอตัวลงอย่างมาก หรืออาจเรียกได้ว่าเข้าสู่ระยะถดถอยแล้ว อัตราว่างงานของเราขณะนี้ยืนอยู่ที่ระดับ 6.1% และอาจพุ่งขึ้นเป็น 7.5% หรือมากกว่าในปีหน้า ผมจึงย้ำว่าการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่สองในเวลาที่เหมาะสม เป็นทางเลือกที่สำคัญมากที่ควรจะเร่งดำเนินการโดยด่วนเพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นและตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคเอกชน หากตัวเลขการใช้จ่ายเหล่านี้ฟื้นตัวขึ้นก็จะหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้"

"ผมแนะนำว่ามาตรการฉบับที่สองควรจะครอบคลุมถึงการเปิดทางให้ผู้บริโภค, กลุ่มผู้ซื้อบ้าน ภาคธุรกิจ และประชาชนทั่วไป เข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ดีและทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นด้วย จนถึงขณะนี้ผมก็ยังเชื่อว่า การใช้มาตรการการเงินควบคู่ไปกับการสร้างเสถียรภาพในตลาดอสังหาริมทรัพย์และผ่อนคลายภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ จะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐกลับมาขยายตัวได้ดีเหมือนเมื่อก่อนได้ไม่ยากนัก" เบอร์นันเก้กล่าว

"หลายคนถามว่าการที่เศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาเติบโตได้ดีเหมือนเมื่อก่อนได้ต้องใช้เวลานานเท่าใด ผมขอตอบว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์ในตลาดการเงินและตลาดสินเชื่อจะกลับมาทำงานตามกลไกปกติได้เร็วเพียงใด ในเบื้องต้นอาจกล่าวได้ว่าสภาวะในตลาดการเงินและตลาดสินเชื่อจะเป็น "ตัวชี้ขาด" ทิศทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ แต่ขณะนี้เป็นเรื่องยากที่จะระบุระยะเวลาที่ตายตัว เพราะเศรษฐกิจของเราถูกรายล้อมด้วยปัจจัยที่ไม่แน่นอนมากมาย" เบอร์นันเก้กล่าว

อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้กังวลว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจทำให้งบประมาณของรัฐบาลสหรัฐมีการขาดดุลจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันสหรัฐก็เผชิญยอดขาดดุลสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ว

หลังจากเบอร์นันเก้แถลงต่อสภาคองเกรสเสร็จสิ้นแล้ว นางแนนซี เพโลซี โฆษกสภาคองเกรสได้กล่าวสนับสนุนแนวความคิดของเบอร์นันเก้ และระบุว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่สองอาจต้องใช้งบประมาณสูงถึง 1.50 แสนล้านดอลลาร์

"ดิฉันขอเรียกร้องให้ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช และสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรส ให้การสนับสนุนคำแนะนำของเบอร์นันเก้เหมือนกับที่ท่านเคยสนับสนุนเมื่อเดือนม.ค. ทั้งสองพรรคควรทำงานร่วมกันและผลักดันให้มีการใช้มาตรการในชวงเวลาที่เหมาะสม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงาน" นางเพโลซีกล่าว

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้ทำให้เกิดการคาดการณ์ในวงกว้างอีกครั้งว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีนี้ นอกจากนี้ แถลงการณ์ครั้งล่าสุดของเบอร์นันเก้ยังช่วยหนุนดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 413.21 จุด หรือ 4.67% แตะที่ 9265.43 จุดเมื่อคืนนี้ด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ