แบงค์ ออฟ ปักกิ่ง ซึ่งไอเอ็นจี กรุ๊ป ถือหุ้นอยู่ด้วยส่วนหนึ่งนั้น กำลังเจรจากับบริษัท ปักกิ่ง แคปิตอล กรุ๊ป เพื่อซื้อหุ้นที่บริษัท ปักกิ่ง แคปิตอล ถืออยู่ 50% ในบริษัท ไอเอ็นจี แคปิตอล ไลฟ์ อินชัวรันซ์ ซึ่งการซื้อหุ้นครั้งนี้เป็นการซื้อหุ้นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน หลังจากที่ทางการจีนไฟเขียวให้ธนาคารต่างๆสามารถขยายขอบเขตการทำธุรกิจไปเป็นบริษัทโบรกเกอร์ การบริหารกองทุน และประกัน เพื่อที่ธนาคารจะได้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพารายได้จากการปล่อยกู้แต่เพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้ ไอเอ็นจี กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการเงินรายใหญ่สุดของเนเธอร์แลนด์ ถือหุ้นครึ่งหนึ่งในไอเอ็นจี แคฟิตอล ไลฟ์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2545 และมีเบี้ยประกันถึง 2 พันล้านหยวน หรือ 293 ล้านดอลลาร์
บลูมเบิร์กรายงานว่า ปีนี้ ตลาดหุ้นจีนร่วงลงมาแล้วถึง 64% ส่งผลให้มีการควบคุมการขายกองทุนรวมของธนาคารต่างๆ ขณะที่เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงก็ทำให้ความต้องการเงินกู้ลดลงไปด้วย แต่ก็ทำให้หนี้เสียสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
ที่ผ่านมา ธนาคารระดับท้องถิ่นของจีนไม่สามารถขยายธุรกิจออกไปนอกเขตได้ จนกระทั่งเมื่อปี 2549 ที่ธนาคารของจีนได้เพิ่มเงินทุน เพื่อขยายสาขาและซื้อกิจการ รวมทั้งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งที่มีขนาดใหญ่และมีการระดมทุนที่ดีกว่าได้
ธนาคารไอซีบีซี ไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงค์ คอร์ป และแบงค์ ออฟ คอมมิวนิเคชั่นส์ ก็เป็นธนาคารที่ได้ดำเนินการเพื่อขออนุญาตลงทุนในบริษัทประกันของจีนเช่นกัน