อิริค ชมิดท์ ซีอีโอบริษัท กูเกิล อิงค์ เปิดเผยว่า กูเกิล เจ้าของเสิร์ชเอ็นจิ้นที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลก จะลดการเข้าซื้อหุ้นในบริษัทอื่นๆและชะลอการจ้างงานลง เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกผันผวน
"การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสะท้อนให้เห็นว่า งบประมาณด้านการโฆษณาของบริษัทต่างๆอยู่ในภาวะที่ตึงตัว และกูเกิลจำเป็นต้องระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นด้วย กำไรของกูเกิลร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในปีนี้ เนื่องจากผู้ลงโฆษณาบางกลุ่ม รวมถึงสถาบันการเงินที่ปล่อยเงินกู้ซื้อบ้านและรถยนต์ ลดการใช้จ่ายด้านการโฆษณาเพื่อลดต้นทุน นอกจากนี้ รายได้จากการโฆษณาที่ลดลงยังส่งผลกระทบต่อหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่ด้วย" สมิดท์กล่าว
"เราทุกคนในแวดวงธุรกิจนี้ล้วนตกอยู่ในความเสี่ยงพอๆกัน รายได้จากการลงโฆษณาที่ลดลงกำลังส่งผลกระทบกับทุกคน" เขากล่าว
ราคาหุ้นกูเกิลร่วงลง 45% ในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจทั่วโลกที่อ่อนแอลงจะส่งผลกระทบต่อยอดขายโฆษณาของกูเกิล ส่วนในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมานั้น กูเกิลใช้จ่ายเงินไปกว่า 3.38 พันล้านดอลลาร์ในการเข้าซื้อกิจการบริษัท DoubleClick Inc. เพื่อแซงหน้าคู่แข่งอย่าง ยาฮู อิงค์ และไมโครซอฟท์ คอร์ป
คอลลินส์ สจ๊วต พีแอลซี ระบุว่า วิกฤตการณ์สินเชื่อทั่วโลกอาจส่งผลให้ยอดขายของธุรกิจโฆษณาออนไลน์หายไปเป็นจำนวนมากถึง 6.7 พันล้านดอลลาร์จนถึงปีพ.ศ.2553 โดยต้นทุนการกู้ยืมพุ่งสูงขึ้นมากหลังจากมีธนาคารล้มละลายอย่างน้อย 15 แห่งในปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะล่มสลายในตลาดซับไพรม์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน