ส.อ.ท.หนุนแนวคิดรมว.คลังกดบาทอ่อนผลักดันส่งออก แนะธปท.รับฟังทุกฝ่าย

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 21, 2008 12:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เห็นด้วยกับแนวคิดของรมว.คลังที่เสนอให้บริหารค่าเงินบาทให้ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง 5 % เพื่อผลักดันการส่งออก เนื่องจากเชื่อว่าการส่งออกของไทยในปีหน้าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินโลกรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในตลาดหลักอย่างสหรัฐ ญี่ปุ่น และยุโรป ซึ่งจะมีการแข่งขันด้านราคาสูงขึ้น เพราะยอดคำสั่งซื้อลดลง

"การกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนให้ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง 5-10% จึงถือเป็นวิธีที่เหมาะสม เพราะคู่ค้าต่างประเทศก็อาจมีการดำเนินการด้วยวิธีนี้อยู่แล้ว จะทำให้ไทยเสียเปรียบทางการค้า ขณะเดียวกันก็ควรจะต้องมีการดูแลอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการขาดสภาพคล่อง"นายสันติ กล่าว

ขณะนี้ผู้ประกอบการหลายกลุ่มเริ่มมียอดคำสั่งซื้อลดลง โดยบางรายมียอดคำสั่งซื้อหายไปกว่า 20-50 % แล้ว ดังนั้นจึงอยากให้ภาครัฐเร่งหามาตรการรองรับ เพราะไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อภาคการจ้างงานจำนวนมากในอนาคต

ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ควรจะรับฟังข้อมูลจากหน่วยงานอื่นเพื่อนำมาประเมินสถานการณ์และช่วยเหลือผู้ส่งออกด้วย ทั้งเรื่องการบริหารอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงแนวคิดการยืดระยะเวลาค้ำประกันเงินฝากออกไปอีก 3 ปี เพราะเชื่อว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้เป็นอย่างดี

สำหรับดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ก.ย.ที่ปรับตัวลดลงจากเดือน ส.ค.เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านการเมืองที่กลับมารุนแรงมากขึ้น และปัญหาวิกฤตการเงินโลกทำให้ดัชนียอดคำสั่งซื้อและดัชนียอดขายโดยรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศลดลง

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความเห็นสอดคล้องกันว่าภาครัฐควรเร่งแก้ปัญหาทางการเมืองอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคและนักลงทุน พัฒนาระบบโลจิสติกส์ในประเทศให้มีประสิทธิภาพ ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในประเทศเพื่อเสริมสภาพคล่องแก่อุตสาหกรรมขนาดกลางและย่อม พัฒนาแรงงานฝีมือ รวมทั้งเทคโนโลยีในการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ และดูแลเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนอย่าให้มีความผันผวน โดยคงระดับไว้ที่ 33-35 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ