"สมคิด"แนะหน่วยงานศก.เป็นตัวหลักหาทางรับมือวิกฤติ มองไทยเป็น"ช้างป่วย"

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 21, 2008 12:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้ต้องยอมรับว่ารัฐบาลไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ ดังนั้นหน่วยงานด้านเศรษฐกิจควรจะเป็นหลักในการร่วมมือกันเพื่อหาแนวทางรับมือผลกระทบจากวิกฤติการเงินของโลก เพราะมองว่าในปี 52 ไทยคงหนีไม่พ้นที่จะต้องเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับที่จะเกิดขึ้นกับทั่วโลก

"ผมคิดว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องพยายามทำงานร่วมกัน ทั้ง คลัง ธปท. สภาพัฒน์ เพื่อหาประเด็นปัญหา ที่จะระงับวิกฤติที่เกิดขึ้น เพราะรัฐคงไม่สามารถจัดการได้เพียงลำพัง ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่าย"นายสมคิด กล่าวระหว่างการปาฐกถาในหัวข้อ" 2009 โอกาสและเศรษฐกิจไทยในเวทีเศรษฐกิจโลก"

แม้เศรษฐกิจในปีหน้าจะต้องเผชิญกับความยากลำบาก แต่ก็ไม่ต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรวมถึงประชาชนกังวลมากเกินไป เพราะเมื่อ ปี 2540 ที่เกิดวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้งนั้นประเทศไทยประสบปัญหามากกว่านี้ เพราะในช่วงนั้นขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง แต่ทุกวันนี้ธุรกิจของประเทศไทยยังสามารถดำเนินกิจการได้ ระบบสถาบันการเงิน รวมถึงกระทรวงการคลังยังมีสภาพคล่องสูง

เพียงแต่ประเด็นสำคัญคือประชาชนและภาคธุรกิจขาดความเชื่อมั่นและระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น ดังนั้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็จะไม่ส่งผลดีต่อการลงทุนมากนัก แต่ควรจะเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาโดยเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายควรร่วมพูดคุยเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น

นายสมคิด กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยถูกประเทศขนาดเล็กมองว่าเป็น"ช้างหลับ" แต่จริง ๆ แล้วน่าจเป็น"ช้างป่วย" เพราะการเมืองไม่มีเสถียรภาพ รัฐบาลไม่สามารถบริหารบ้านเมืองได้ตามปกติ เนื่องจากมีความเปราะบาง และยิ่งเกิดขึ้นในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจก็ยิ่งน่าเป็นห่วง เพราะจะมีปัญหาลุกลามมาจากภายนอก ซึ่งยิ่งทำให้รัฐบาลมีงานยากเพิ่มขึ้น

ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นและเปิดเผยข้อมูลที่แท้จริงต่อสาธารณชน รวมทั้งดำเนินการภายใต้ความถูกต้อง ขับเคลื่อนประเทศไปให้ได้ ขณะเดียวกันก็จะต้องเร่งลดปัญหาทางการเมือง หันมาเน้นแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ รวมทั้งต้องขับเคลื่อนนโยบายภายในประเทศ โดยเน้นปัจจัยพื้นฐานของประเทศเป็นหลักมากกว่าทำตามต่างชาติ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ