ไครส์เลอร์ อาจจะจับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัท นิสสัน มอเตอร์ โค และบริษัท เรโนลต์ เอส.เอ. เพื่อที่จะเอาตัวรอดในยามที่กิจการอยู่ในภาวะวิกฤตอันเนื่องมาจากสถานการณ์ผันผวนทางการเงินทั่วโลก
นักวิเคราะห์มองว่า นับตั้งแต่ที่ได้มีการเจรจาต่อรองเรื่องการควบรวมกิจการกับบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป หรือจีเอ็ม นั้น คาดว่าอาจเกิดปัญหาบางด้าน เนื่องจากจีเอ็มไม่สามารถจัดหาวงเงินได้ตามความต้องการ รวมทั้งการบริหารแรงงานที่มีอยู่ในรูปแบบที่ไม่สอดคล้องกับการควบรวมกิจการตามที่ได้มีการเสนอ ส่งผลให้ไครส์เลอร์เล็งหาพันธมิตรจากฝั่งญี่ปุ่นและฝรั่งเศสแทน
การที่ไครส์เลอร์มีโอกาสที่จะได้เป็นคู่ค้ากับคู่พันธมิตรระหว่างนิสสันและเรโนลต์นั้น เนื่องจากบริษัทรถของญี่ปุ่นและสหรัฐได้ตกลงกันเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ในการจัดส่งรถของบริษัทไปจำหน่ายภายใต้แบรนด์ของอีกฝ่าย แต่วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า นิสสันไม่สนใจที่จะเข้าไปเทคโอเวอร์ไครส์เลอร์ และตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า ไครส์เลอร์ หรือเซอร์เบรัส ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของไครส์เลอร์จะถูกร้องขอให้เข้าไปซื้อหุ้นในบริษัทรถของญี่ปุ่นและฝรั่งเศส เพื่อที่จะรักษาสายสัมพันธ์ระหว่างกันไว้ เหมือนกับความสัมพันธ์ที่ยังคงมีอยู่ของนิสสันและเรโนลต์
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า วงในมองว่า หากมีการรวมตัวกับไครส์เลอร์แล้ว นิสสัน และเรโนลต์ก็คาดว่าจะสามารถลดต้นทุนที่จำเป็นในด้านการจัดซื้อและเทคโนโลยีลงได้