ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกแถลงการณ์ว่า เฟดเตรียมปล่อยเงินกู้ให้กับสถาบันการเงินภายในประเทศเป็นวงเงินรวม 5.40 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อผ่อนคลายภาวะตึงตัวในตลาดการเงิน
"ตลาดการเงินตึงตัวมากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้สถาบันการเงินมีความยากลำบากในการระดมทุน มาตรการปล่อยเงินกู้ครั้งล่าสุดมูลค่า 5.40 แสนล้านดอลลาร์เป็นความพยายามครั้งที่ 3 ของเฟดที่จะระบายสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน เนื่องจากระบบการเงินประสบปัญหาตึงตัวมาโดยตลอดนับตั้งแต่การล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส และหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป เศรษฐกิจสหรัฐอาจถดถอยเร็วขึ้น เฟดจึงต้องยื่นมือเข้าคลี่คลาย" เฟดกล่าวในแถลงการณ์
มาตรการครั้งล่าสุดของเฟดใช้ชื่อว่า "Money Market Investor Funding Facility" มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นสภาพคล่องในระบบและผ่อนคลายความวิตกกังวลของสถาบันการเงิน เพราะที่ผ่านมานั้น ระบบการเงินของสหรัฐตึงตัวอย่างมากเนื่องจากสถาบันการเงินลังเลที่จะปล่อยกู้ ซึ่งทำให้ทั้งผู้บริโภคและภาคเอกชนไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้
เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เฟดร่วมกับกระทรวงการคลังสหรัฐประกาศมาตรการแก้ปัญหาวิกฤตการเงิน ซึ่งครอบคลุมถึงการจัดตั้งวงเงินพิเศษเพื่อซื้อตราสารเชิงพาณิชย์หรือตั๋วสัญญาใช้เงินระยะสั้น และปล่อยกู้แบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อระบายสภาพคล่องเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่อง
เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวว่า "การจัดตั้งวงเงินพิเศษเพื่อซื้อตราสารพาณิชย์หรือตั๋วสัญญาใช้เงินระยะสั้น จะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถเข้าถึงแหล่งระดมทุนได้ง่ายขึ้น และช่วยลดภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แผนการดังกล่าวเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์ทั่วโลกปรับตัวลดลง และจะทำให้ภาวะตึงตัวในตลาดการเงินคลี่คลายลง