นายทาโร่ อาโสะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นซึ่งจะจัดการเลือกตั้งในเร็วๆนี้ หรืออย่างเร็วที่สุดในเดือนพ.ย.นั้น มีแนวโน้มว่าจะผลักดันเรื่องการลดภาษีเงินได้ หลังจากที่ได้เปิดเผยถึงแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 2 ของรัฐบาลเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา คาดว่า จะมีการประกาศแผนการลดภาษีเงินได้สัปดาห์นี้ โดยจะมีการลดภาษีจากประชาชนที่กู้เงินซื้อบ้าน และขยายระยะเวลา
นายอาโสะ ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพีเมื่อเดือนที่แล้ว ได้ใช้นโยบายการกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นประเด็นสำคัญในการรณรงค์หาเสียง ขณะที่คะแนนนิยมในตัวนายกฯวัย 68 ปีผู้นี้ลกลง หลังจากที่วิกฤตการเงินโลกส่งผลกระทบต่อธุรกิจส่งออกของญี่ปุ่น ส่งผลให้ดัชนีนิกเกอิ ร่วงลงไปแล้ว 23% นับตั้งแต่ที่นายอาโสะขึ้นเป็นนายกฯเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา
โซอิชิ โอคูดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยซูมิโตโม่ กล่าวว่า การลดภาษีดังกล่าวไม่มีผลกระทบมากนักต่อเศรษฐกิจ และดูเหมือนว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อดึงคะแนนเสียงก่อนที่จะถึงการเลือกตั้ง
ที่ผ่านมา นายกฯญี่ปุ่นได้รักษาจุดยืนของตนเองให้อยู่ห่างจากสถานการณ์ผันผวนทางการเงิน เมื่อเขาได้วิจารณ์แผนการซื้อหุ้นธนาคารของสหรัฐมูลค่า 2.50 แสนล้านดอลลาร์ว่า ไม่มีใครเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นมาตรการที่เพียงพอ
หลังจากนั้นตลาดหุ้นก็ดิ่งลงหนักสุดในรอบ 20 ปี ขณะที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจญี่ปุ่นก็ได้ออกมาวิจารณ์ว่า แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 2 ซึ่งจะใช้เงิน 2 ล้านล้านเยน หรือ 1.98 หมื่นล้านดอลลาร์ที่นายยาซูโอะ ฟูกุดะ ร่างไว้นั้น เป็นมาตรการที่ยังไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาเช่นกัน
ผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนโดยนสพ.ไมนิชิที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ระบุว่า คะแนนนิยมในตัวนายอาโสะตกลง 9% เหลือ 36% นอกจากนี้ ประชาชนยังต้องการให้พรรคฝ่านค้านเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งถึง 48% ขณะที่ผู้ตอบรับแบบสอบถาม 36% ต้องการให้พรรครัฐบาลเป็นฝ่ายชนะ