นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า ในวันที่ 24 ต.ค.นี้ คณะกรรมการบริหารนโนยบายพลังงาน(กบง.) เตรียมพิจารณาเพิ่มการจัดเก็บเงินที่ได้จากการจำหน่ายน้ำมันเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวานนี้(21 ต.ค.) เพื่อสำรองไว้ใช้อุดหนุนราคาน้ำมันหลังจากสิ้นสุดโครงการ 6 เดือน 6 มาตรการ เพื่อคนไทยทุกคน และชดเชยรายได้จากการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา
โดยส่วนตัวเห็นว่า จะใช้วิธีการเรียกเก็บเงินเพิ่มในบางผลิตภัณฑ์ที่ยังมีเพดานราคาเหลืออยู่ เช่น แก๊สโซฮอล์, ไบโอดีเซล เป็นต้น เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ไม่ใช่การขยายเพดานการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ และจะมีการจัดเก็บในช่วงราคาน้ำมันขาลง
ปัจจุบันอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ แต่ละชนิด ได้แก่ เบนซิน 95 อยู่ที่ 4 บาทต่อลิตร, เบนซิน 91 อยู่ที่ 4 บาทต่อลิตร ซึ่งเต็มเพดานที่กำหนดแล้ว ส่วนแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 1.35 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 0.85 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ อี20 อยู่ที่ 0.30 บาทต่อลิตร, ดีเซล บี2 อยู่ที่ 1.20 บาทต่อลิตร และดีเซล บี 5 กองทุนน้ำมันฯ ชดเชยในอัตรา 0.20 บาทต่อลิตร
รมว.พลังงาน คาดว่า ภายในเดือน ต.ค.นี้จะเสนอผลสรุปเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เพื่อพิจารณา รวมถึงการปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)
นอกจากนี้ยังมีการปรับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า(พีดีพี 2007) โดยลดปริมาณสำรองไฟฟ้าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสากลที่ประมาณ 15% จากปัจจุบันอยู่ที่ 28% เพื่อไม่ให้มีการลงทุนมากเกินไปและเป็นภาระของประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ในภาวะชะลอตัวลง และสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอน ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย
"การทบทวนแผน PDP 2007 ใหม่จะไม่กระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไทยและแผนรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยการลดการสำรองการผลิตไฟฟ้าที่ไทยอาจมีมากเกินความจำเป็น จะช่วยลดงบประมาณรายจ่ายของประเทศลง" รมว.พลังงาน กล่าว