นายเฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ เตรียมประกาศแผนการซื้อหุ้นในธนาคารระดับท้องถิ่นของสหรัฐอย่างเร็วที่สุดในวันนี้ เนื่องจากต้องการยุติวิกฤตสินเชื่อที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและครัวเรือน โดยการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวจะเป็นการซื้อหุ้นรอบ 2 ของโครงการอัดฉีดเงินทุนเข้าสถาบันการเงินมูลค่า 2.50 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากที่กระทรวงได้จัดสรรเงิน 1.25 แสนล้านดอลลาร์ให้กับธนาคารรายใหญ่ 9 แห่งของสหรัฐไปแล้ว
บลูมเบิร์กรายงานว่า สถาบันการเงินที่ได้รับผลกระทบจากตลาดบ้านที่ดิ่งลง กำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาการผิดนัดชำระหนี้จากเงินกู้อีก ขณะที่เศรษฐกิจก็ชะลอตัวลงมากขึ้นเรื่อยๆ และอัตราว่างงานก็อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี
นีล คาชคารี รักษาการผู้ช่วยรัฐมนตรีซึ่งดูแลสำนักงานช่วยเหลือทางการเงิน กล่าวว่า เรากำลังช่วยเหลือสถาบันการเงินโดยเร็วที่สุด และจะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ก่อนที่จะมีการกำหนดวงเงินชุดใหม่ขึ้นมา
การตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นธนาคารมากขึ้นนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่สถาบันการเงินขนาดกลางของสหรัฐได้รายงานตัวเลขขาดทุนมหาศาล เนชั่นแนล ซิตี้ คอร์ป ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของรัฐโอไฮโอ ขาดทุนมากขึ้น และต้องนำเงินสำรองหนี้เสีย และประกาศลดพนักงานอีกถึง 4,000 ตำแหน่ง โดยยอดขาดทุนในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นถึง 729 ล้านดอลลาร์ จากยอดปีที่แล้วที่ 19 ล้านดอลลาร์