สบน.คาดลงทุนเมกะโปรเจ็คต์ดันหนี้สาธารณะเพิ่มเป็น 41.59% ในปี 55

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 24, 2008 14:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงปีงบประมาณ 52-55 หนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้นอย่างเนื่อง และรัฐจะยังคงต้องจัดทำงบประมาณขาดดุล เนื่องจากรัฐบาลมีความจำเป็นต้องลงทุนในโครงการเมกะโปรเจ็กต์ ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 1.8 ล้านล้านบาท

สบน.คาดการณ์ว่าปีงบประมาณ 52 หนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้นเป็น 38.07% ของจีดีพี จากปัจจุบันอยู่ที่ 35.5% และในปี 53 เพิ่มขึ้นเป็น 40.79% ของจีดีพี ,ปี 54 เพิ่มเป็น 41.47% ของจีดีพี และปี 55 เพิ่มเป็น 41.59% ของจีดีพี จากการลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็กท์ทั้งหมด ภายใต้สมมติฐานที่เศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ยปีละ 5.5% อัตราเงินเฟ้อ 3.5% และขาดดุลงบประมาณต่อเนื่องตลอดทั้ง 4 ปี

"ยืนยันว่าภาระหนี้สาธารณะดังกล่าวอยู่ภายใต้จัดการความเสี่ยงและเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบจากวิกฤติการเงินโลก เนื่องจากหนี้สาธารณะส่วนใหญ่เป็นหนี้ระยะยาว และเป็นการก่อหนี้ต่างประเทศจำนวนน้อยมาก"นายพงษ์ภาณุ กล่าว

ทั้งนี้ สบน.เตรียมรายงานสถานะหนี้ต่อคณะรัฐมนตรีภายในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ ตามระยะเวลากำหนดหลังจากรัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว

รวมทั้งคณะกรรมการนโยบายหนี้สาธารณะ เตรียมพิจารณาปรับปรุงหลักเณฑ์ปี 2539 เกี่ยวกับ EBITDA ของรัฐวิสาหกิจ โดยในปี 52 จะผ่อนผันให้รัฐวิสาหกิจ 13 แห่งสามารถก่อหนี้ได้แม้ว่าจะมี EBITDA ต่ำกว่า 1.5 เท่าของภาระหนี้ เนื่องจากรัฐวิสาหกิจมีความจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนรองรับโครงการเมกะโปรเจ็กตฺ์

นายพงศ์ภานุ กล่วว่า การก่อหนี้จะทำให้รัฐวิสาหกิจบางแห่งมี EBITDA ติดลบ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องจำเป็น เพราะมิฉะนั้นจะทำให้โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าไม่เกิด และมีความล่าช้าได้ ขณะที่อนาคตจะต้องกำหนดให้รัฐวิสาหกิจมีการแยกบัญชิเชิงพาณิชย์ และเชิงสังคม เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับการที่ให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณอุดหนุนในการดำเนินนโยบาย

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายหนี้สาธารณะวันนี้ ยังได้แต่งตั้ง นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ แทนนายโอฬาร ไชยประวัติ ที่ลาออกไปเป็นรองนายกรัฐมนตรี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ