บริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ บริษัทผู้ผลิตชิป จอแบน และโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดของเอเชีย มีกำไรร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 3 ปี เนื่องจากภาวะซัพพลายล้นทำให้ราคาอุปกรณ์เซมิคอนดัคเตอร์และจอแสดงผลมีราคาถูกลง
บริษีทได้ปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณด้านชิปลง หลังจากที่รายได้ของแผนกนี้ทรุดลง 74% และยังได้คาดการณ์ว่า ความต้องการจอแอลซีดีในไตรมาสนี้จะลดลงด้วยเช่นกัน ซัมซุงเป็นอีกบริษัทในกลุ่มผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีผลประกอบการปรับตัวลง เช่นเดียวกับโซนี่ที่ได้รายงานตัวเลขรายได้ที่อ่อนตัวลงในสัปดาห์นี้ ในขณะที่วิกฤตสินเชื่อส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจนใกล้จะเข้าสู่ภาวะถดถอย
หุ้นซัมซุงร่วงลงถึง 5.2% หลังจากที่บริษัทซูวอน ได้รายงานตัวเลขรายได้สุทธิไตรมาส 3 ที่ตกลง 44% เหลือ 1.22 ล้านล้านวอน หรือ 863 ล้านดอลลาร์ จากระดับปีที่แล้วที่ 2.19 ล้านล้านวอน
บลูมเบิร์กรายงานว่า ชอย มิน ไจ เจ้าหน้าที่ของเคทีบี แอสเส็ท แมเนจเมนท์ กล่าวว่า ซัมซุงกำลังได้รับผลกระทบจากผลพวงที่เกิดขึ้นจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก ดังนั้น การขยายตัวที่ชะลอตัวลงจึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้สำหรับซัมซุง
ทางด้านเบค แจ ยีร์ ผู้จัดการกองทุนของอินเวสเมนท์ ทรัสต์ แมเนจเมนท์ กล่าวว่า บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส่วนใหญ่จะต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ซัมซุงถือว่าอยู่ในสถานะที่ดีกว่า เงินวอนที่อ่อนค่าลงจะช่วยให้ซัมซุงได้เปรียบกว่าคู่แข่งอย่างโซนี่
ทั้งนี้ กำไรจากธุรกิจเซมิคอนดัคเตอร์ร่วงลง 74% แจะ 2.40 แสนล้านวอน เนื่องจากภาวะซัพพลายสูงเกินทำให้ราคาชิปความจำที่ใช้ในคอมพิวเตอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอ่อนตัวลง ซัมซุงคาดว่า จะสามารถทำกำไรได้ 1.45 แสนล้านวอน และรายได้ 4.89 ล้านล้านวอนจากธุรกิจดังกล่าว