นายดุสิต นนทะนาคร รองประธานหอการค้าไทย แสดงความเป็นห่วงภาคการเงินที่อาจเกิดปัญหาสภาพคล่องที่ขณะนี้เริ่มลดลง ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคลดลง และเห็นว่ารัฐบาลควรจะหามาตรการเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่าที่ทำอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมาตรการต่างๆที่รัฐบาลประกาศใช้ที่ผ่านมายังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและภาคเอกชนได้ และมองว่ายังไม่เพียงพอ เพราะได้รับผลกระทบจากภายนอก
ดังนั้น ภาคเอกชนต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลออกแพ็กเกจมาตรการเศรษฐกิจทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว และควรจะต้องมีการหารือกับภาคเอกชน เพื่อรับฟังความคิดเห็นและอุปสรรคต่างๆ
"การที่รัฐบาลประกาศมาตรการออกมาใช้ โดยไม่มีการหารือกับภาคเอกชน เห็นได้ว่าไม่ได้ผลเท่าที่ควร และการที่รมว.คลังเตรียมขยายประกันเงินฝาก 100% เป็น 3 ปี ไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากนัก เพราะไม่มีผลอะไรตามมามากนัก คิดว่าควรที่จะคุยกับภาคเอกชนจะดีกว่าเพราะตอนนี้ทุกฝ่ายลำบากมาก โดยเฉพาะการส่งออกที่คาดว่าจะหนักกว่าวิกฤติปี 40"นายดุสิต กล่าว
ส่วนนโยบายของรัฐบาลต้องการให้ธนาคารพาณิชย์สนับสนุนสินเชื่อเพิ่มสภาพคล้องให้กับภาคเอกชน เห็นว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องมีความระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อทั้งวิกฤติภาคการเงิน แม้รัฐบาลจะมีนโยบาย แต่ภาคเอกชนก็ต้องดูแลความเสี่ยงของตัวเอง ไม่สามารถทำตามรัฐบาลได้ทุกเรื่อง ดังนั้น คงต้องหาจุดสมดุลระหว่างภาครัฐและเอกชนโดยการหารือร่วมกัน