องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ให้คำมั่นจะพยายามอย่างถึงที่สุดในการให้ความช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาที่ยากจนและอ่อนแอที่สุดท่ามกลางวิกฤตการเงินที่แผ่ขยายลุกลามไปทั่วทุกภูมิภาคของโลก
ยูเอ็นระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่หลังเสร็จสิ้นการประชุม UN System Chief Executives Board for Coordination (CEB) ว่า วิกฤตการเงินที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้จะส่งผลกระทบกับทุกประเทศ ทั้งประเทศพัฒนาและและกำลังพัฒนา แต่ผู้ที่จะได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจะเป็นผู้ยากไร้ในประเทศกำลังพัฒนา ทั้งที่คนกลุ่มนี้มีส่วนรับผิดชอบต่อวิกฤตน้อยที่สุด
ทั้งนี้ ผู้นำของหน่วยงาน กองทุน โครงการพิเศษของยูเอ็น ตลอดจนธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ประชุมร่วมกันเมื่อวันศุกร์เพื่อประเมินวิกฤตที่ตลาดการเงินโลกกำลังเผชิญอยู่ และความเสี่ยงที่ว่าวิกฤตการเงินโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อประชาชน ครอบครัว และชุมชนทั่วทุกมุมโลก
นายบัน คี-มุน เลขาธิการยูเอ็น ซึ่งเป็นประธานการประชุมดังกล่าว กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การทะยานขึ้นและความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญๆ โดยเฉพาะอาหารและพลังงาน เป็นสาเหตุของความลำบากยากแค้น รวมถึงการครองชีพและโภชาการที่ต่ำกว่ามาตรฐานในบรรดาประเทศยากจน
เขากล่าวว่า วิกฤตการเงิน ความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจโลกถดถอย และความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ถือเป็นภัยร้ายแรงสำหรับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า โดมินิก สเตราส์-คาห์น กรรมการผู้จัดการ IMF , โรเบิร์ต โซเอลลิก ประธานเวิลด์แบงก์ และปาสกาล ลามี ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมประชุมวานนี้ โดยบันกล่าว่า เขาเห็นด้วยในที่ประชุมว่า หน่วยงานทั้งหมดของยูเอ็นต้องร่วมมือกันกอบกู้วิกฤตนี้