นสพ.นิกเกอิรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นอาจซื้อหุ้นที่ถือครองโดยธนาคารสัญชาติญี่ปุ่นเพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพให้ตลาดการเงิน หลังจากที่ดัชนีนิกเกอิในตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี โดยหนังสือพิมพ์ระบุว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติอาจพิจารณาฟื้นกฎหมายให้รัฐบาลเข้าซื้อหุ้นจากสถาบันการเงินญี่ปุ่นผ่านทาง Banks' Shareholdings Purchase Corp. ซึ่งเป็นสถาบันที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นในปี 2002
ในเดือนนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงมากกว่า 10 ล้านล้านดอลลาร์ในแง่ของมูลค่า ซึ่งคิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของมูลค่ารวมของหุ้น ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้นว่าธนาคารกลางและสถาบันการเงินต่างๆ จะไม่สามารถสกัดกั้นการร่วงลงของผลประกอบการและการลดการจ้างงาน โดยวานนี้ ดัชนีนิกเกอิทรุดฮวบลงถึง 9.6% แตะที่ 7,649.08 จุด เป็นครั้งแรกที่ดัชนีปิดต่ำกว่าระดับ 8,000 จุด นับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. 2546 เมื่อนิกเกอิปิดตลาดที่ 7,907.19 จุด ขณะที่ นักวิเคราะห์กล่าวว่า ดัชนีนิกเกอิอาจร่วงลงต่ำสุดถึง 5,000 จุด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่า วิกฤตที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินจะบีบให้ นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ต้องลดคาดการณ์การขยายตัวของประเทศในการรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจวันที่ 31 ต.ค.นี้
นอกจากนี้ ยังมีกระแสคาดการณ์เพิ่มมากขึ้นว่า บีโอเจจะลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเกรงว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลกจะถูกฉุดรั้งจากภาวะถดถอยที่คาดว่าจะกินระยะเวลายาวนาน หลังจากที่รัฐบาลได้ออกมายอมรับในสัปดาห์นี้ว่า ญี่ปุ่นอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี หลังจากที่เศรษฐกิจหดตัวในไตรมาสสอง และผลผลิตในโรงงาน ยอดสั่งซื้อเครื่องจักร และการใช้จ่ายภาคครัวเรือนลดลงในเดือนส.ค.