บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป (จีเอ็ม) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ได้ขอให้กระทรวงการคลังสหรัฐให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน เพื่อที่บริษัทจะได้สรุปเรื่องการเจรจาควบรวมกิจการกับไครส์เลอร์ แอลแอลซี ของเซอร์เบรัส แคปิตอล เมเนจเมนท์ให้สำเร็จ
แหล่งข่าวกล่าวว่า นายเฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีตลังสหรัฐเองนั้นต้องการให้ความช่วยเหลือโดยดึงเงินจากแผนการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำมูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์ให้สามารถพัฒนายานยนต์ที่มีประสิทธิภาพในด้านการใช้เชื้อเพลิง มากกว่าที่จะมีการนำเงินจากแผนการช่วยเหลือสถาบันการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์
บลูมเบิร์กรายงานว่า การให้ความช่วยเหลือด้านการเงินอาจจะช่วยกระตุ้นสภาพคล่องของบริษัทรถที่ขาดทุน ในขณะที่การใช้เงินเพื่อควบรวมกิจการก็อาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือน ตลาดรถในสหรัฐปีนี้ก็หดตัวลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2536 เนื่องจากวิกฤตสินเชื่อและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทำให้ความต้องการลดลง
โทนี่ แฟรตโต โฆษกทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลว่า รัฐบาลจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการเจรจาเพื่อควบรวมกิจการครั้งนี้หรือไม่ ขณะที่บลูมเบิร์กยังไม่สามารถติดต่อกับประธานสภาเศรษฐกิจแห่งชาตาของทำเนียบขาวได้ในขณะนี้
จีเอ็มและไครส์เลอร์ ซึ่งเป็นบริษัทรถรายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐ ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องการเจรจาแต่อย่างใด รวมทั้งเซอร์เบรัสด้วย
ทั้งนี้ ค่ายรถของสหรัฐคาดว่า การควบรวมกิจการครั้งนี้จะต้องใช้เงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อที่จะปิดโรงงานที่มีอยู่ ลดจำนวนพนักงาน การรวมแผนกงานปฏิบัติการ และเสริมสภาพคล่อง
สภาคองเกรสได้อนุมัติโครงการปล่อยเงินกู้มูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 27 ก.ย. กองทุนดังกล่าวคาดว่าจะนำมาใช้ในการปรับเปลี่ยนโรงงานที่มีอยู่ให้สามารถผลิตยานยนต์ที่มีประสิทธิภาพได้มากขึ้น แต่อาจจะไม่มีให้กู้เป็นเวลา 6-18 เดือน และอาจจะมีกฎระเบียบที่กำหนดถึงวิธีการใช้เงินดังกล่าว