นักวิเคราห์คาด"โนมูระ"อาจขาดทุนครั้งประวัติศาสตร์จากการซื้อเลห์แมน

ข่าวต่างประเทศ Monday October 27, 2008 13:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การเข้าซื้อกิจการเลห์แมน บราเธอร์ส ที่นายเคนอิจิ วาตานาเบ้ ซีอีโอของโนมูระ โฮลดิงส์ อิงค์ กล่าวไว้ว่าเป็นโอกาสที่เกิดขึ้นนานทีปีหน อาจทำให้บริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่สุดของเอเชียแห่งนี้ต้องประสบภาวะขาดทุนครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์

โดยนักวิเคราะห์ 5 ท่านที่บลูมเบิร์ก นิวส์ ได้สำรวจความคิดเห็น คาดว่า โนมูระอาจรายงานผลประกอบการขาดทุนสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ในปีงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2552 เทียบกับตัวเลขขาดทุน 737 ล้านดอลลาร์ปีงบการเงิน 2550 ซึ่งเป็นผลมาจากการซื้อธุรกิจในเอเชีย ยุโรป และตะวันออกกลางของเลห์แมน บราเธอร์ส อดีตวาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐที่ประสบภาวะล้มละลาย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวจะถือเป็นการขาดทุนครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่ที่โนมูระแปรสภาพเป็นบริษัทโฮลดิงและนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อปีพ.ศ. 2544

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักวิเคราะห์จะจับตาดูรายละเอียดเกี่ยวกับต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผนวกรวมพนักงานจำนวน 8,500 คนของเลห์แมน เมื่อวาตานาเบ้เปิดเผยรายงานไตรมาสสองวันพรุ่งนี้ ขณะที่วาตานาเบ้ ซึ่งรับรองว่าพนักงานจะได้รับเงินเดือนและโบนัสเพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานเหล่านี้ตีจากไปร่วมงานกับคู่แข่ง ไม่ได้เปิดเผยค่าใช้จ่ายในการควบรวมกิจการครั้งนี้

อาซุมะ โอโนะ นักวิเคราะห์จากเครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี ในกรุงโตเกียว กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นจากการว่าจ้างพนักงานของเลห์แมนจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของโนมูระ โดยโนมูระไม่อาจคาดหวังว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโตอย่างรวดเร็วภายใต้สภาวะการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดปัจจุบันได้

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า การเทคโอเวอร์เลห์แมนอาจทำให้โนมูระมีต้นทุนค่าใช้จ่ายประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสสองของปีงบการเงินปัจจุบัน เมื่อพิจารณาอ้างอิงจากรายงานของเลห์แมนที่ระบุว่า ค่าชดเชยและสวัสดิการของพนักงานเฉลี่ยอยู่ที่ 332,000 ดอลลาร์/คนในปีงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย. 2550

อย่างไรก็ตาม มิจิโยริ ฟูจิวาร่า โฆษกของโนมูระปฏฺเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ