ผู้ว่าแบงค์ชาติฮ่องกงชี้วิกฤตการเงินลุกลามถึงบริษัทฮ่องกงปิดกิจการหลายราย

ข่าวต่างประเทศ Monday October 27, 2008 13:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโจเซฟ ยัม ผู้ว่าการธนาคารกลางฮ่องกง กล่าวให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ของฮ่องกงวันนี้ว่า วิกฤตสินเชื่อที่เกิดขึ้นทั่วโลกเริ่มที่จะส่งผลกระทบถึงบริษัทเอกชนของฮ่องกงแล้ว และธนาคารต่างๆของฮ่องกงกำลังคุมเข้มการปล่อยกู้ ที่ผ่านมา ธนาคารกลางฮ่องกงได้ใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมเงิน

คริสปี้ ครีม โดนัท ซึ่งเป็นบริษัทโดนัทรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐก็กำลังจะปิดกิจการสาขาทั้ง 7 แห่งในฮ่องกง หลังจากที่เปิดทำการมาได้ 2 ปี

บลูมเบิร์กรายงานว่า แดเนียล ชาน นักยุทธศาสตร์การลงทุนอาวุโสของดีบีเอส แบงค์ (ฮ่องกง) กล่าวว่า ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากต้นทุนแรงงานทั้งในฮ่องกงและจีนปรับตัวขึ้น ขณะที่ยอดขายกลับปรับตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ นอกจากนี้ สินเชื่อก็อยู่ในสภาพที่ตึงตัวเพราะแบงค์ควบคุมการปล่อยกู้อย่างเข้มงวด

จนกระทั่งถึงเดือนนี้ บริษัทค้าปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิก บริษัทเสื้อผ้า บริษัทผู้ผลิตของเล่นและเครื่องประดับในฮ่องกงต่างก็ต้องปิดกิจการ หรือไม่สามารถชำระหนี้ตามเวลาได้

อัตราว่างงานของฮ่องกงเองก็ปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำที่สุดในรอบกว่า 10 ปีในไตรมาส 3 ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง นายจ้างได้ลดการจ้างงานขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจอ่อนตัวลง และวิกฤตสินเชื่อส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ

บริษัท ไถ่ หลิน เรดิโอ เซอร์วิส ซึ่งเป็นเครือข่ายขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกที่เปิดกิจการมานานถึง 60 ปี ต้องปิดทำการเนื่องจากมีหนี้สะสมสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 13 ล้านดอลลาร์ ส่วนบริษัท ยู-ไรท์ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้งส์ ที่มีเอาท์เล็ทเสื้อผ้าประมาณ 600 แห่งในฮ่องกงและจีน ถูกระงับเงินทุนไปหลังจากที่บริษัทไม่สามารถชำระหนี้ 850 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงได้ ส่งผลให้ศาลสูงฮ่องกงแต่งตั้ง Deloitte Touche Tohmatsu มาดูแลเรื่องการชำระหนี้เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา

วิกฤตสินเชื่อที่เกิดขึ้นหมายความว่า บริษัทที่มีขนาดเล็กกว่าจะเผชิญกับสถานการณ์การขอกู้จากธนาคารที่ลำบากมากขึ้น นอกเหนือไปจากต้นทุนวัตถุดิบและแรงงานที่สูงขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ