เดอร์ลิส พาลาซิออส รมว.กระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ของเอกวาดอร์เปิดเผยว่า เอกวาดอร์จะลดอัตราการลงทุนด้านการผลิตน้ำมัน และหันไปเพิ่มการลงทุนด้านการสำรวจน้ำมันและก๊าสธรรมชาติ หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ตัดสินใจลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน เพื่อสกัดกั้นการร่วงลงของราคาน้ำมัน
นายพาลาซิออสกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เอกวาดอร์จะลดอัตราการลงทุนด้านการผลิตน้ำมันหลังโอเปคมีมติลดปริมาณการผลิตในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยอดส่งออกน้ำมันของเอกวาดอร์ยังไม่ร่วงลงมากนัก แม้ความต้องการในตลาดลดน้อยลง และการที่เอกวาดอร์ลดการผลิตลง 7,000 บาร์เรล/วันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันภายในประเทศ
การตัดสินใจลดปริมาณการผลิตของกลุ่มโอเปคจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้โควต้าการผลิตของเอกวาดอร์เหลือเพียง 493,000 บาร์เรล/วัน จากระดับ 520,000 บาร์เรล/วัน
พาลาซิออสกล่าวว่า "การที่โอเปคตัดสินใจลดปริมาณการผลิตในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ถือเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสมและทันท่วงที ในฝั่งเอกวาดอร์นั้น ทางรัฐบาลจะเริ่มหันไปมุ่งเน้นเรื่องการสำรวจน้ำมันและก๊าสธรรมชาติ และจะเพิ่มการลงทุนในด้านนี้ นอกจากนี้ เอกวาดอร์จะเลื่อนแผนการเพิ่มการผลิตน้ำมันออกไปเป็นปีหน้า และจะมุ่งเน้นเรื่องการสำรวจบ่อน้ำมันขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า ITT ซึ่งตั้งอยู่ในป่าอเมซอน
ทั้งนี้ เอกวาดอร์ เป็นสมาชิกกลุ่มโอเปค และเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 5 ในอเมริกาใต้ โดยเอกวาดอร์มีน้ำมันดิบสำรองอยู่ราว 2.36 พันล้านบาร์เรล ซึ่ง 45% งบประมาณการเงินของรัฐ มาจากรายได้จากธุรกิจน้ำมัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน