นายณัฐพล ชวลิตชีวิน กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เสนอแนะธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ลดปริมาณการออกพันธบัตรระยะสั้นลงเพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระบบ เพราะปัจจุบัน ธนาคารพาณิชย์ ได้ใช้สภาพคล่องส่วนเกินลงทุนในพันธบัตรระยะสั้นของ ธปท.แทนการปล่อยสินเชื่อ
และยิ่งเกิดปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐที่ส่งผลต่อสภาพคล่องในระบบการเงินโลก แม้ว่าขณะนี้ประเทศไทยจะยังไม่มีปัญหาสภาพคล่อง แต่ธนาคารพาณิชย์เริ่มเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ด้วยการเลือกลูกค้ามากขึ้น เช่นเดียวกับนักลงทุนสถาบันที่ระมัดระวังในการลงทุนกับหุ้นกู้เอกชน ทำให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กเริ่มจะมีปัญหาในการระดมเงิน โดยเฉพาะในสาขาธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตโดยตรง
นอกจากนี้ ภาครัฐจะต้องหาทางช่วยเหลือให้มีสินเชื่อแก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยการค้ำประกันสินเชื่อ โดยใช้กลไธ.ของรัฐ เช่น ธนาคารกรุงไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน ซึ่งต่างประเทศเริ่มใช้แนวทางค้ำประกันเงินกู้บ้างแล้ว เพื่อให้ระบบการเงินอยู่ได้และสถาบันการเงินเชื่อมั่นใจที่จะปล่อยสินเชื่อ เพราะรัฐบาลเข้ามาค้ำประกัน
“ทั้งหมดเป็นเรื่องของความวิตกกังวลเมื่อครั้งวิกฤตปี 2540 สถาบันการเงินมีปัญหา จึงไม่ปล่อยสินเชื่อ หรือปล่อยสินเชื่อไม่ได้ แต่วิกฤตในรอบนี้แบงก์ไม่ได้มีปัญหา แต่ที่ไม่ปล่อยสินเชื่อก็เพราะกลัวภาวะที่ยังไม่นิ่ง ยังไม่แน่นอนว่าจะลุกลามแค่ไหน"นายณัฐพล กล่าว
นายณัฐพล กล่าวว่า สำหรับการที่จะระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ในภาวะปัจจุบัน หากเป็นบริษัทธุรกิจที่ยังมีเรทติ้งในระดับที่ดี ก็น่าจะยังคงระดมเงินได้ แต่ต้องยอมรับว่าต้นทุนอาจจะสูงกว่าปกติ หรืออาจต้องออกเป็นหุ้นกู้ที่มีอายุสั้นลง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของนักลงทุน ที่ยังวิตกกังวลกับความไม่แน่นอนของวิกฤต จึงไม่ต้องการที่จะลงทุนในตราสารที่อายุนานเกินกว่า 1 ปีขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ปี 52 ความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ต่าง ๆจะลดน้อยลง และเชื่อว่าจะทำให้สภาพคล่องในระบบที่ตึงตัวคลี่คลายลงได้