นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่าเวียดนามเสนอขายข้าวขาว 5% ให้กับผู้ซื้อต่างประเทศในราคาต่ำกว่าตันละ 400 ดอลลาร์ ในปริมาณ 400,000 ตัน ซึ่งถือว่าน่าตกใจมากเพราะอาจทำให้ราคาข้าวไทยทรุดตามไปด้วย
แต่ยังดีที่เวียดนามมีข้าวในสต๊อกเพียง 400,000 ตัน ดังนั้น จึงคาดว่าจะขายได้หมดทั้งล็อตในเวลาไม่กี่วัน และจะทำให้ผู้นำเข้าต่างประเทศหันมาซื้อข้าวจากไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐบาลไทยจะประกาศเปิดขายข้าวในสต๊อกรัฐบาล
"ตอนเช้าเวียดนามเสนอขายข้าว 5% ตันละ 470 เหรียญ ตอนเย็นลดเหลือ 410 เหรียญ พอจะปิดตลาดต่ำกว่าตันละ 400 เหรียญ ผมอยากให้เขาขายให้หมดก่อน ซึ่งปริมาณ 4 แสนตัน น่าจะขายได้หมดในเวลาไม่กี่วัน จากนั้นผู้ซื้อก็จะมุ่งมาไทย แต่เราก็มีเงื่อนเวลาการเปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 51/52 ที่จะเริ่มวันที่ 1 พ.ย. ดังนั้นเราจำเป็นต้องเร่งระบายข้าวในสต๊อกเพื่อหาเงินให้เพียงพอสำหรับการรับจำนำ" นายไชยา กล่าว
รมว.พาณิชย์ ระบุว่า การที่เวียดนามขายข้าวในราคาต่ำมากคงเป็นเรื่องยากที่ราคาข้าวไทยจะไม่ผันผวนตาม แต่ทั้งนี้การเปิดขายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลก็จำเป็นต้องใช้ราคาข้าวเวียดนามมาประกอบการพิจารณากำหนดราคาขายด้วย ซึ่งขณะนี้เห็นว่าราคาข้าว 5% ของไทยควรอยู่ที่ตันละ 650 ดอลลาร์ แต่ไทยคงไม่ลดราคาขายข้าวไทยให้ใกล้เคียงกับข้าวของเวียดนาม เพราะข้าวไทยมีคุณภาพดีกว่า และหากลดราคาลงก็จะเป็นการทำลายภาพพจน์ข้าวไทยได้
สำหรับการขายข้าวไปต่างประเทศนั้น นายไชยา กล่าวว่า กลางเดือน พ.ย.ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เดินทางไปเยือนอิหร่านเพื่อเจรจาแลกข้าวกับน้ำมันเชื้อเพลิงตามที่อิหร่านเสนอ ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะระบายข้าวออกจากสต๊อก และขยายตลาดข้าวไทยได้