ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งแรง หลังนลท.แห่ถอนทุนจากตลาดหุ้นเข้าซื้อดอลล์

ข่าวต่างประเทศ Tuesday October 28, 2008 07:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ถอนการลงทุนออกจากตลาดหุ้นและเข้าเทรดในตลาดปริวรรตเงินตรา ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มถดถอย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.2414 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.2622 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับ 1.5449 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.5923 ดอลลาร์/ปอนด์

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 93.630 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 94.270 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1601 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1668 ฟรังค์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลงแตะระดับ 0.5380 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5570 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.6042 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.6231 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย

ค่าเงินเยนยังคงแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้แม้กลุ่มประเทศ G7 แสดงความกังวลว่าค่าเงินเยนผันผวนมากเกินไปก็ตาม โดยกลุ่ม G7 ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า "เรารู้สึกกังวลที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนมีความผันผวนมากเกินไป และมีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงิน ทั้งนี้ กลุ่ม G7 ยืนยันว่าจะร่วมมือกันรักษาเสถียรภาพในระบบการเงินระหว่างประเทศ และจะติดตามสถานการณ์ในตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด พร้อมกับให้ความร่วมมือในระดับที่เหมาะสม"

อิสึเกะ ซากากิบาระ ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยวาเซดะในกรุงโตเกียว กล่าวว่า "การที่กลุ่ม G7 แทรกแซงตลาดด้วยการออกแถลงการณ์แสดงความกังวลเรื่องเงินเยน ไม่ได้ช่วยสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยนได้ เราคาดว่าหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นอาจต้องปรึกษากับรัฐบาลในกลุ่มสหภาพยุโรปและสหรัฐ ซึ่งผมคาดว่าผู้นำประเทศเหล่านี้อาจระงับการแทรกแซงตลาดไว้สักระยะหนึ่ง"

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนจำนวนมากถอนฐานการลงทุนออกจากตลาดหุ้นหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่นในมาตรการต่างๆที่รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกพยายามนำออกมาใช้เพื่อยับยั้งเศรษฐกิจถดถอย

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.ดีดตัวขึ้น 2.7% แตะระดับ 464,000 ยูนิต ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศใช้มาตรการช่วยเหลือภาคการธนาคารครั้งใหม่ ด้วยการทำข้อตกลงกับธนาคาร 9 แห่งเพื่อเข้าซื้อหุ้นในธนาคารเหล่านี้ โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะเสริมสร้างงบดุลของธนาคารและกระตุ้นสภาพคล่องให้ลื่นไหล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ