เงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรปจะลดดอกเบี้ย ขณะที่วิกฤตสินเชื่อทั่วโลกกำลังฉุดให้เศรษฐกิจในภูมิภาคตกอยู่ในภาวะถดถอย
โดยเงินยูโรร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ก่อนที่เยอรมนีจะเปิดเผยตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคในวันนี้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า จะอยู่ในระดับที่อ่อนตัวที่สุด นับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2546 นายฌอง คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรปได้ออกมากล่าวเมื่อวานนี้ว่า อาจจะลดดอกเบี้ยลงในสัปดาห์หน้า ขณะที่เงินเยนก็หยุดแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์หลังจากที่ดีดตัวขึ้น 5 วันทำการ จากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะขายเงินเยนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2547
บลูมเบิร์กรายงานว่า ลี ไว ตัค นักยุทธศาสตร์ด้านเงินตราของฟอร์คาสท์ พีทีอี กล่าวว่า มีความกังวลมากกว่าเดิมว่า เศรษฐกิจในยุโรปจะชะลอตัวลง และอาจจะมีการลดดอกเบี้ย นักลงทุนเองก็กำลังขายเงินยูโร
เมื่อเวลา 11.46 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว เงินยูโรร่วงลงมาอยู่ที่ 1.2413 ยูโรต่อดอลลาร์ จากระดับเมื่อวานนี้ในตลาดเงินนิวยอร์กที่ 1.2493 ยูโรต่อดอลลาร์ โดยก่อนหน้านี้ เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2330 ยูโรต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2549 โดยเมื่อเทียบกับเงินเยน เงินยูโรอยู่ที่ 115.87 ยูโรต่อเยนเมื่อวานนี้ หลังจากอ่อนตัวลงแตะ 113.64 ยุโรต่อเยน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 ปี โดยเงินเยนอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 93.16 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 92.78 เยนต่อดอลลาร์
เศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มที่จะถดถอย โดยอุตสาหกรรมการผลิตและบริการในยุโรปตกลงมากเมื่อเดือนต.ค. และความเชื่อมั่นของเยอรมนีก็อ่อนตัวลงแตะระดับต่ำในรอบ 5 ปี
นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรปจะลดดอกเบี้ยลงอีกในเดือนมิ.ย. หลังจากที่ลดดอกเบี้ยไปเมื่อวันที่ 8 ต.ค. เหลือ 3.75%