ธนาคารกลางสิงคโปร์เปิดเผยรายงานด้านเศรษฐกิจในรอบปีวันนี้ว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์ซึ่งเข้าสู่ภาวะถดถอยในไตรมาส 3 นั้น จะชะลอตัวลงอีก เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงส่งผลคุกคามธุรกิจการผลิตและการท่องเที่ยว รวมทั้งการใช้จ่ายของผู้บริโภค
สิงคโปร์คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 3% ในปีนี้ และคาดว่าเศรษฐกิจในปีหน้าอาจจะขยายตัวต่ำกว่าระดับที่ควรจะเป็น โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีหน้านั้นจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มทั่วโลก
แบงค์ชาติสิงคโปร์ระบุว่า วิกฤตการเงินที่เกิดขึ้นในวงกว้างและทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจสิงคโปร์ เนื่องจากสิงคโปร์พึ่งพาความต้องการจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ การรักษาสมดุลด้านปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบเศรษฐกิจสิงคโปร์นั้นมีแนวโน้มว่าจะชะลอตัวลง
บลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางสิงคโปร์ได้ยุตินโยบายการสนับสนุนเงินดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่า เพื่อที่จะส่งเสริมสภาพเศรษฐกิจ ขณะที่เงินเฟ้อชะลอตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี ธนาคารกลางทั่วโลกได้ผ่อนปรนนโยบายด้านการเงินลง รวมทั้งลดดอกเบี้ย ในขณะที่วิกฤตสินเชื่อโลกที่เลวร้ายลงส่งผลกระทบต่อการขยายตัว
รายงานของธนาคารกลางระบุว่า จุดยืนด้านนโยบายจะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็สามารถรับประกันว่า เงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำและมีเสถียรภาพในระยะกลาง เศรษฐกิจสิงคโปร์ที่ชะลอตัวลง จะช่วยสกัดแรงกดดันด้านต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสิงคโปร์คาดว่า ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคจะเพิ่มขึ้น 6-7% ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นอัตราการขยายตัวที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2524 ส่วนเงินเฟ้อปีหน้าคาดว่าจะอยู่ในช่วง 2.5-3.5% ธุรกิจบริการการเงินของสิงคโปร์คงจะไม่สามารถหลีกหนีจากวิกฤตสินเชื่อโลกได้ ขณะที่สถาบันการเงินทั่วโลกได้รายงานตัวเลขขาดทุนและการตั้งสำรองมากกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์ วิกฤตการเงินโลกจะส่งผลกระทบในทันทีต่อธุรกิจการเงินที่มีความเชื่อมั่นเป็นปัจจัยผลักดัน เนื่องจากความเสี่ยงมีเพิ่มขึ้น ธุรกิจโบรกเกอร์ การบริหารกองทุนมีแนวโน้มว่าจะชะลอตัวลงอีกท่ามกลางบรรยากาศที่ผันผวนในตลาด