นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีในวันนี้ได้เห็นชอบให้ขยายเวลาคุ้มครองเงินฝากเต็ม 100% ออกไปอีก 3 ปี จนถึง 10 ส.ค. 54 จากเดิมสิ้นสุด 10 ส.ค. 52
มาตรการนี้สถาบันการเงินจะคุ้มครองเงินฝากเต็มจำนวนต่อเนื่องจากปัจจุบันจนถึง 10 ส.ค.54 เพื่อรองรับปัญหาวิกฤิตการเงินในสหรัฐที่ลุกลามไปยุโรปที่ส่งผลให้เกิดปัญหาสภาพคล่องต่อหลายประเทศ ซึ่งในรัฐบาลแต่ละประเทศต้องออกมาช่วยเหลือธุรกิจ เช่น เข้าควบคุมกิจการ การให้เงินกู้แก่สถาบันการเงินที่มัปัญหา การออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนให้กับธนาคารกลางนำมาใช้ดำเนินมาตรการต่างๆ การอัดฉีดเม็ดเงินเช้าตลาดเงิน หรือ การลดดอกเบี้ยนโยบาย
"มาตรการนี้เพื่อป้องกันคนแตกตื่นแล้วไปถอนเงิน สร้างความเชื่อมั่นกับผู้ฝากเงิน เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินไว้ ป้องกันการเคลื่อนย้ายเงินตรา"รมว.คลัง กล่าว
ตามมตรการดังกล่าวได้กำหนดขยายการคุ้มครองเงินฝาก แบ่งเป็น 5 ขั้นตอน โดยในช่วง 11 ส.ค.51-10 ส.ค.52 คุ้มครองเต็มจำนวนเหมือนเดิม , 11 ส.ค. 52 -10 ส.ค. 53 ให้คุ้มครองเต็มจำนวนจากเดิมคุ้มครอง 100% ในวงเงิน 100 ล้านบาท, 11 ส.ค. 53 -10 ส.ค. 54 ให้ความคุ้มครองเต็มจำนวนจากเดิมคุ้มครองจำนวน 50 ล้านบาท , 11 ส.ค. 54 - 10 ส.ค. 55 จะคุ้มครองเงินฝากจำนวน 50 ล้านบาทจากเดิมคุ้มครองเงินฝากจำนวน 10 ล้านบาท และ ตั้งแต่ 11.ค. 55 เป็นต้นไป จะคุ้มครองเงินฝากจำนวน 1 ล้านบาทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
นายสุชาติ ย้ำว่วา มาตรการนี้จะช่วยรองรับผลกระทบที่จะเกิดตามมาจากภาคธุรกิจรวมทั้งสถาบันการเงิน ที่จะประสบปัญหาและถึงขึ้นปิดกิจการลง แม้ว่าประเทศไทยจะมีภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจการเงินที่เข้มแข็งมากขึ้น กว่าเมื่อครั้งเกิดวิกฤติปี 40 โดยมีระบบการกำกับดูแลภาคการเงินที่เข้มงวด และเป็นมาตรฐานสากลมากขึ้น
แต่เมื่อเกิดปัญหาในหลายประเทศทั้วโลก รวมทั้งในเอเชีย ก็ได้ทยอยประกาศคุ้มครองเงินฝากเต็มจำนวน เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนที่มีต่อระบบธนาคาร โดยมาตรการเหล่านี้จะปกป้องความเสี่ยงจากการไหลออกของเงินฝาก
นอกจากนี้ ยังเห็นว่า ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ปัญหาสภาพคล่องของสภาบันการเงินในสหรัฐอาจจะยังไม่ถึงจุดต่ำสุด จึงจำเป็๋นที่เราต้องเตรียมตัวรับปัญหาระบบการเงินของโลกที่ผันผวนจนไม่สามารถบรรเทาได้อย่างรวดเร็ว
นายสุชาติ กล่าวว่า สัปดาห์หน้ารัฐบาลจะมีออกมาตรากรดระตุ้นศรษฐกิจชุดใหม่ออกมา และในวันพรุ่งนี้ รัฐบาลจัดประชุมเวิร์คชอปเพื่อทำความเข้าใจในรายละเอียดเกี่ยวกับกองทุนหมู่บ่าน เอสเอ็มแอล และสินค้าโอท็อป เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชน