ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐประจำเดือนต.ค. 2551 มีแนวโน้มปรับตัวลดลง ขณะที่ตลาดหุ้นดิ่งร่วงลงอย่างหนักและธนาคารพาณิชย์ต่างระงับการออกเงินกู้ ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคลดการจับจ่ายใช้สอย
นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสำนักงานคอนเฟอร์เรนซ์ บอร์ด ประจำเดือนต.ค.จะปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ระดับ 52 จุด พร้อมทั้งคาดว่า ราคาบ้านอาจตกลงอย่างหนักเป็นประวัติการณ์ในรอบ 12 เดือนที่สิ้นสุด ณ เดือนส.ค.
การใช้จ่ายภาคครัวเรือนเริ่มลดลงขณะที่ดัชนี S&P ที่มีการซื้อขายในช่วงเวลา 1 เดือนดิ่งลงมากที่สุดในรอบ 70 ปี ขณะที่ตัวเลขว่างงานที่ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจที่ซบเซาส่งสัญญญาณว่าการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของระบบเศรษฐกิจนั้นจะยิ่งฉุดรั้งสภาพเศรษฐกิจสหรัฐให้เลวร้ายลงไปอีก
"สถานการณ์ต่างๆในเดือนนี้ดูจะไม่ค่อยสู้ดีนักสำหรับผู้บริโภค" แม็กซ์เวลล์ คล๊าร์ก นักวิเคราะห์จาก IDEAglobal ในนิวยอร์กกล่าว "ความตื่นตระหนกจากวิกฤตการเงินประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอทำให้ประชาชนยังลังเลใจที่จะจับจ่ายใช้สอย"
ทั้งนี้ สำนักงานคอนเฟอเรนซ์บอร์ดมีกำหนดเปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีดังกล่าวจะอยู่ระหว่าง 45-56.6 จุด หลังจากที่เคลื่อนไหวในระดับ 59.8 จุดในเดือนก.ย. และอยู่ในระดับเฉลี่ยที่ 103.4 จุดเมื่อปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ดัชนีราคาบ้านของ S&P/Case-Shiller ซึ่งมีกำหนดรายงานในเวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นอาจเผยให้เห็นถึงราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ที่ปรับตัวลดลง 16.6% จากเดือนส.ค.2550 ซึ่งเป็นระดับที่ร่วงลงหนักสุดเมื่อเทียบเป็นรายปีนับตั้งแต่เริ่มทำการสำรวจในปี 2544