หนังสือพิมพ์นิกเกอิรายงานในวันนี้ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กำลังพิจารณาเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จากระดับปัจจุบันที่ 0.5% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้ โดยคาดว่าบีโอเจจะตัดสินใจเรื่องดังกล่าวในการประชุมวันศุกร์ที่ 31 ต.ค.นี้
อลัน รัสกิน นักวิเคราะห์จากบริษัท RBS กล่าวว่า ที่ผ่านมานั้น บีโอเจถูกกดันให้ลดดอกเบี้ยเพื่อสกัดนักเก็งกำไรให้หยุดซื้อเงินเยน หลังจากเงินเยนทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม ค่าเงินเยนอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์เมื่อคืนนี้ เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าบีโอเจจะลดดอกเบี้ย
"การลดดอกเบี้ยเป็นทางออกที่ดีที่จะสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน ซึ่งหากบีโอเจลดดอกเบี้ยตามการคาดการณ์ ก็เท่ากับเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.พ.ศ.2544" รัสกิ้นกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายโยชิฮิโร่ ซูกิโมโต้ ผู้อำนวยการสำนักงานผู้ว่าการบีโอเจ ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใดๆต่อรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์นิกเกอิ
บ๊อบ อังเดรส์ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Portfolio Management Consultants กล่าวว่า กระแสคาดการณ์ที่ว่าบีโอเจจะลดดอกเบี้ยเป็นหนึ่งในปัจจจัยสำคัญที่หนุนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น 889.35 จุด หรือ 10.88% แตะ 9,065.12 จุด อีกทั้งยังช่วยให้ค่าเงินเยนอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
คริส เทอร์เนอร์ นักวิเคราะห์ด้านการลงทุนในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศจาก ING Groep NV กล่าวว่า "ก่อนหน้านี้ค่าเงินเยนแข็งแกร่งมากเกินไปจนทำให้นักลงทุนจับตาดูว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะหาทางแก้ไขวิกฤตการดังกล่าวได้อย่างไร เพราะเงินเยนที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงกำลังสร้างความเสียหายต่อผลประกอบการของบริษัทส่งออก อาทิ บริษัท แคนน่อน และยังฉุดตลาดหุ้นโตเกียวดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 26 ปี" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน