นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง ยืนยัน ว่ากระทรวงการคลังจะไม่มีการจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้น หรือการค้ำประกันกองทุนที่เข้าไปซื้อหุ้น เนื่องจากเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องนำเงินภาษีของประชาชนเข้าไปซื้อหุ้น เพราะรัฐบาลมีหน้าที่นำเงินภาษีไปใช้จ่ายเพื่อดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน
นอกจากนี้ยังเห็นว่าการลงทุนในตลาดหุ้นควรจะต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เนื่องจากตลาดหุ้นไทยมีความเชื่อมโยงกับตลาดหุ้นทั่วโลก ดังนั้น หากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลง ตลาดหุ้นไทยก็ต้องปรับตัวลดลงตาม เป็นกลไกปกติ
"เราไม่รู้ว่าหุ้นจะลงอีกแค่ไหน จะให้รัฐเข้าไปค้ำคงไม่ไหว หากเราไปแบกไว้ 100 จุด ก็ต้องใช้เงิน 5-6 แสนล้านบาท แต่เมื่อหุ้นโลกลง หุ้นไทยก็ต้องลง ก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่" นายสุชาติ ระบุ
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นที่ได้ปรับตัวลดลงอยู่ในขณะนี้ภาคเอกชนหรือหน่วยงานต่างๆ หากมองเห็นโอกาสก็สามารถเข้าไปลงทุนได้ แต่ต้องคำนึงด้วยว่าการลงทุนมีความเสี่ยง หากลงทุนในจังหวะที่ดีก็มีโอกาสทำกำไรได้ แต่หากลงทุนในจังหวะไม่ดีก็มีโอกาสขาดทุนได้
รมว.คลัง ยังกล่าวด้วยว่า ในการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจวันพรุ่งนี้(30 ต.ค.) จะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เกี่ยวกับการจัดหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ(Soft Loan)ให้แก่ธนาคารพาณิชย์ จากที่ก่อนหน้านี้ ธปท.ระบุว่าภายใต้ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย ฉบับใหม่ไม่สามารถให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่ธนาคารพาณิชย์ได้อีกแล้ว
แต่ทั้งนี้ เห็นว่ากฎหมายยังไม่มีความชัดเจนว่ามีข้อห้ามในเรื่องดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลต้องการให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบเพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นวันพรุ่งนี้จึงจะหารือกันในเรื่องนี้ด้วย
"พรุ่งนี้จะถามผู้ว่าฯ แบงก์ชาติว่ากฎหมายใหม่มีข้อจำกัดในเรื่อง Soft Loan อย่างไร เพราะเท่าที่ดู ยังไม่เห็นว่ากฎหมายระบุข้อห้ามในเรื่องดังกล่าว" นายสุชาติ ระบุ
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทยฉบับใหม่ ไม่ได้มีการระบุชัดเจนถึงการห้ามให้ Soft Loan เพียงแต่เห็นว่าเป็นมติของบอร์ด ธปท.เท่านั้น ดังนั้นคงต้องมาหารือกันให้ชัดเจนว่ากฎหมายใหม่จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เพราะกรณีนี้อาจจะเป็นเรื่องของการตีความทางกฎหมายมากกว่า