ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำข้อตกลงอัดฉีดสภาพคล่องให้กับธนาคารกลางเกาหลีใต้ ธนาคารกลางสิงคโปร์ ธนาคารกลางบราซิล และธนาคารกลางเม็กซิโก ผ่านธุรกรรมการทำสว็อปค่าเงิน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เฟดตัดสินใจกระตุ้นสภาพคล่องให้กับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่
เฟดออกแถลงการณ์วันนี้ตามเวลาในประเทศไทยว่า "เฟดได้ทำข้อตกลงสว็อปค่าเงินกับธนาคารกลางเกาหลีใต้ สิงคโปร์ บราซิล และเม็กซิโก เพื่ออัดฉีดสภาพคล่องให้กับธนาคารกลางทั้งสี่แห่ง เพราะเล็งเห็นว่า ประเทศเหล่านี้ล้วนอยู่ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก และการอัดฉีดสภาพคล่องผ่านการทำสว็อปค่าเงินในครั้งนี้จะช่วยให้ธนาคารทั้งสี่แห่งสามารถระดมทุนในรูปสกุลเงินดอลลาร์ได้คล่องตัวขึ้น"
นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดพยายามปกป้องเศรษฐกิจโลกจากภาวะถดถอยและให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ด้านการเงินที่มีจุดเริ่มต้นมาจากสหรัฐ โดยล่าสุดเมื่อค่นนี้เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) 0.50% สู่ระดับ 1.00% และลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (discount rate) 0.50% สู่ระดับ 1.25% และในช่วงเช้านี้ ธนาคารกลางฮ่องกงและธนาคารกลางไต้หวันตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงด้วย
เอ็ดวิน ทรูแมน อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการเงินระหว่างประเทศของเฟด ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาสถาบันวิจัยเศรษฐกิจระหว่างประเทศของสหรัฐ กล่าวว่า "เฟดไม่สามารถปล่อยให้ประเทศอื่นๆที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจโลกต้องเผชิญวิกฤตการณ์ตามลำพัง ปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบการเงินทั่วโลกกำลังทำให้เศรษฐกิจโลกเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะถดถอย"
นายลี ซอง-แต ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้กล่าวว่า "การที่เกาหลีใต้ทำข้อตกลงสว็อปค่าเงินกับเฟดจะช่วยให้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของเราขยายตัวมากขึ้นและยังช่วยหนุนตลาดปริวรรตเงินตราให้มีเสถียรภาพ นอกจากนี้ เกาหลีใต้จะให้ความร่วมมือกับธนาคารกลางประเทศอื่นๆเพื่อรักษาเสถียรภาพทั้งในตลาดการเงินทั่วโลกและตลาดภายในประเทศ" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน