อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์ในตลาดเอเชียมีแนวโน้มอ่อนตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันนี้ เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารพาณิชย์จะปล่อยเงินกู้ระหว่างกันมากขึ้น หลังจากธนาคารกลางทั่วโลกพร้อมใจกันลดอัตราดอกเบี้ย และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อัดฉีดสภาพคล่องให้กับ 4 ธนาคารยักษ์ใหญ่ในประเทศตลาดเกิดใหม่ ผ่านการทำธุรกรรมสว็อปค่าเงิน
เฟดมีมติลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นและอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงประเภทละ 0.50% ในการประชุมเมื่อคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยมีเป้าหมายสกัดกั้นเศรษฐกิจไม่ให้เข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและดอกเบี้ยเงินกู้ลงอย่างละ 0.27% ซึ่งเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งที่สามในรอบสองเดือน ส่วนในช่วงเช้านี้ ธนาคารกลางฮ่องกงและธนาคารกลางไต้หวันตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงด้วย
นอกจากนี้ เฟดได้ทำข้อตกลงอัดฉีดสภาพคล่องให้กับธนาคารกลางเกาหลีใต้ ธนาคารกลางสิงคโปร์ ธนาคารกลางบราซิล และธนาคารกลางเม็กซิโก ผ่านธุรกรรมการทำสว็อปค่าเงิน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เฟดตัดสินใจกระตุ้นสภาพคล่องให้กับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่
มาร์ค ตัน นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า "การทำข้อตกลงสว็อปค่าเงินแม้ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาในตลาดการเงินให้หมดไป แต่อย่างน้อยก็ช่วยผ่อนคลายภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อได้มาก การที่เฟดอัดฉีดสภาพคล่องให้สิงคโปร์ผ่านธุรกรรมสว็อปค่าเงินถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียไปในตัว เพราะสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางตลาดเงินดอลลาร์ในเอเชีย"
เมื่อวานนี้ อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์สกุลเงินดอลลาร์ประเภท 3 เดือนที่ตลาดลอนดอน (Libor) ร่วงลงแตะระดับ 3.42% ส่วนอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์ในออสเตรเลียดิ่งลง 0.07% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์ที่ตลาดฮ่องกง (Hibor) ลดลง 0.30% และอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์ในตลาดสิงคโปร์ (Sibor) ลดลง 0.05% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน