BOIอนุมัติลงทุน 47 โครงการ มูลค่า 2.2 หมื่นลบ.คาดสิ้นปีได้ 400 โครงการ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 30, 2008 15:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) อนุมัติส่งเสริมการลงทุน 47 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 22,132 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่ม อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ กระดาษ และพลาสติก และกิจการบริการ สาธารณูปโภค 19 โครงการ, กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องจักร เหล็ก 14 โครงการ, กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมเบา 13 โครงการ และกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า 1 โครงการ คาดภายในสิ้นปีนี้พิจารณาได้หมดทั้ง 400 โครงการ บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เดินหน้าขยายลงทุนในไทยกว่า 7 พันล้านบาท

การอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในครั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ กระดาษ และพลาสติก และกิจการบริการ สาธารณูปโภค ได้รับการส่งเสริมมากที่สุดจำนวน 19 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 6,090 ล้านบาท

กิจการที่น่าสนใจ ได้แก่ บริษัท 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค 7 จำกัด จะขยายกิจการเขตอุตสาหกรรมในพื้นที่ 1,600 ไร่ ตั้งอยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี โดยบริษัทมีแผนในการพัฒนาโครงการระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ตั้งแต่ปี 52-54 เพื่อรองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมโลหะ อุตสาหกรรมกระดาษ และอุตสาหกรรมสิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น

บมจ. จุฑานาวี(JUTHA)ได้รับการส่งเสริมลงทุนเพื่อขยายกิจการการให้บริการเดินเรือ เพื่อขนส่งสินค้าเทกองสินค้าทั่วไปทางทะเลระหว่างประเทศลักษณะประจำเส้นทาง มูลค่าเงินลงทุน 511.5 ล้านบาท โดยบริษัทจะให้บริการขนส่งสินค้าประจำเส้นทางไทย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ โดยสินค้าหลักที่จะให้บริการขนส่ง ได้แก่ เหล็ก ถ่านหิน และสินค้าเกษตร

และยังให้การส่งเสริมการลงทุนในกิจการขนถ่ายสินค้าสำหรับเรือเดินทะเล ของ บริษัท สันทัดและบุตร จำกัด โดยจะมีการขนถ่ายสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ ปีละประมาณ 96,000 ทีอียู ขนถ่ายสินค้าทั่วไป สินค้าเทกอง และสินค้าเหลว ปีละประมาณ 3,144,000 ตัน วงเงินลงทุนทั้งสิ้น 493 ล้านบาท ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ก่อสร้างท่าเทียบเรือจำนวน 5 ท่า พร้อมลานพักสินค้าและคลังเก็บสินค้า

บริษัท ไมโครชิพ เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของไมโครชิพ สหรัฐอเมริกาในการขอรับการส่งเสริมขยายกิจการผลิต IC ,IC TESTING และ IC MODULES TESTING มูลค่าเงินลงทุนรวม 7,390 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนต่อเนื่องภายหลังบริษัทได้เข้ามาลงทุนในไทยแล้ว 5 โครงการตั้งแต่ปี 2538 และไทยนับเป็นฐานการผลิต IC (IC ASSEMBLY & PACKAGING) ที่ใหญ่ที่สุดของไมโครชิพ ตามแผนการลงทุนบริษัทจะใช้วัตถุดิบ และชิ้นส่วนจากประเทศไทยทั้งหมด โดยในช่วง 3 ปีแรกจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 621 ล้านบาท

MR.TJIO SIANG MIN นักลงทุนจากอินโดนีเซีย ในการขอรับการส่งเสริมผลิตรถจักรยานยนต์ประเภท 4 จังหวะ ขนาดตั้งแต่ 500 ซีซี ขึ้นไป โดยมีกำลังผลิตปีละประมาณ 25,000 คัน มูลค่าเงินลงทุน 200 ล้านบาท ตั้งโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง โดยมีแผนที่จะใช้ชิ้นส่วนในประเทศ เช่น ชิ้นส่วนระบบเบรก ชิ้นส่วนไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ท่อโลหะเพื่อมาขึ้นรูปโครงรถ รวมถึงชิ้นส่วนยาง และพลาสติก ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่ารวม 1,117.5 ล้านบาท/ปี

บริษัทไพโอเนีย ไฮ-เบรด(ไทยแลนด์)จำกัด ในการขอรับส่งเสริมขยายกิจการ ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดคัดคุณภาพ ปีละประมาณ 24,000 ตัน มูลค่าเงินลงทุน 380 ล้านบาท ตั้งโรงงานที่ จ.ลำพูน โดยจะเป็นการพัฒนาสายพันธุ์คุณภาพของเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดในไทย เพื่อจำหน่ายให้กับเกษตรกรนำไปปลูกเพื่อจำหน่ายต่อให้โรงงานผลิตอาหารสัตว์ มีการใช้วัตถุดิบในประเทศคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท/ปี

บริษัท ร่วมเจริญพัฒนาการข้าว จำกัด ในกิจการข้าวคัดคุณภาพ มูลค่าเงินลงทุน 600 ล้านบาท ตั้งโรงงานที่ จ.พิจิตร มีกำลังผลิตปีละประมาณ 84,000 ตัน โดยใช้วัตถุดิบในประเทศทั้งหมด ได้แก่ ข้าวสาร และข้าวกล้อง มูลค่าประมาณ 1,671 ล้านบาท/ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ