ราฟาเอล รามิเรซ รัฐมนตรีน้ำมันและพลังงานของเวเนซูเอลา กล่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะพิจารณาลดปริมาณการผลิตน้ำมันอีกวันละ 1 ล้านบาร์เรลภายในเดือนธ.ค.นี้ หลังจากที่ทางกลุ่มพึ่งตัดสินใจลดโควต้าการผลิตถึง 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
นายรามิเรซกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ในเวเนซูเอล่าว่า ตลาดน้ำมันโลกในขณะนี้ไร้เสถียรภาพ และอุปสงค์ก็ลดลงมากถึงราว 900,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ ต้องลดระดับการผลิตสะสมที่เกินอยู่ลงมาด้วย
เขากล่าวว่า สมาชิกโอเปคพร้อมที่จะจัดการประชุมฉุกเฉินทุกเมื่อถ้าเห็นว่าจำเป็น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายอับดุลลาห์ ซาเล็ม เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปค กล่าวที่กรุงลอนดอนในวันอังคารที่ผ่านมาว่า โอเปคอาจจัดการประชุมฉุกเฉินก่อนการประชุมตามกำหนดการครั้งหน้าในเดือนธ.ค. ถ้าราคาน้ำมันยังคงขยับลงอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ ของเวเนซูเอล่า กล่าวในระหว่างเดินทางเยือนเอกวาดอร์เมื่อไม่นานมานี้ว่า เวเนซูเอล่าสนับสนุนให้โอเปคลดการผลิตลงอีกเพื่อทำให้ราคาน้ำมันมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ ในการประชุมฉุกเฉินในกรุงเวียนนาเมื่อวันที่ 24 ต.ค. โอเปคได้ตัดสินใจลดการผลิตลงวันละ 1.5 ล้านบาร์เรล เพื่อสกัดกั้นการร่วงลงเกือบ 55% ของราคาน้ำมัน นับตั้งแต่ที่เคยพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 147 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา
ตามมติดังกล่าวของที่ประชุม เวเนซูเอล่าต้องลดการผลิตลง 129,000 บาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้โควต้าการผลิตในปัจจุบันของเวเนซูเอล่าอยู่ที่วันละ 3.24 ล้านบาร์เรล