(เพิ่มเติม) KTB-ออมสิน-SCIB-TMB ร่วมปล่อยกู้โครงการรับจำนำพืชผลเกษตร 1.1 แสนลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 3, 2008 11:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เปิดเผยว่า สบน.จะเป็นผู้รับผิดชอบในโครงการรับจำนำพืชผลทางการเกษตร เช่น ข้าว ข้าวโพด และมันสำปะหลัง วงเงิน 1.1 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ กำหนดให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เป็นผู้ยื่นขอสินเชื่อจากธนาคารของรัฐ 4 แห่ง คือ ธนาคารกรุงไทย(KTB) และธนาคารออมสิน แห่งละ 4 หมื่นล้านบาท , ธนาคารนครหลวงไทย(SCIB) และ ธนาคารทหารไทย(TMB) แห่งละ 1.5 หมื่นล้านบาท

กระทรวงคลังจะเป็นผู้ค้ำประกันการขอสินเชื่อดังกล่าว วงเงินเบิกจ่ายตามจริง มีระยะเวลาชำระคืน 1 ปี อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน MLR -2 หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 5.5% ในปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลจะเป็นผู้รับภาระดอกเบี้ยในโครงการดังกล่าว โดยสามารถเริ่มขอสินเชื่อได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ผู้อำนวยการ สบน. ยืนยันว่า การให้สินเชื่อในโครงการดังกล่าวจะดำเนินการอย่างโปร่งใส เพราะต้องมีการรายงานต่อรัฐสภาในช่วงสิ้นปีงบประมาณ และอยู่ในงบดุลของรัฐบาล โดยมั่นใจว่าการให้สินเชื่อครั้งนี้จะไม่กระทบต่อสภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากไม่ได้เป็นการยื่นขอสินเชื่อโดยตรง แต่บางส่วนอาจจะออกเป็นตัวสัญญาใช้เงิน พร้อมย้ำว่าโครงการดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินของ ธ.ก.ส.

ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย(KTB) ยืนยันว่า การให้สินเชื่อในโครงการรับจำนำพืชผลทางการเกษตรดังกล่าวไม่ได้กระทบกับสภาพคล่องของธนาคาร อีกทั้งยังเป็นการให้สินเชื่อที่มีกระทรวงการคลังเป็นผู้คำประกัน โดยเสนออัตราดอกเบี้ยเท่ากับตลาด ดังนั้น จึงถือว่าน่าพอใจ

ทั้งนี้ คาดว่าปี 51 จะมีการเบิกจ่ายเงินจากสินเชื่อดังกล่าวได้ประมาณ 70% ส่วนที่เหลืออีก 30% จะเบิกจ่ายในปี 52 อย่างไรก็ดี วันพรุ่งนี้(4 พ.ย.)กระทรวงการคลังจะเสนอรายละเอียดของโครงการรับจำนำพืชผลเกษตรดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

"ใครๆ ก็ต้องให้กู้ เพราะเป็นเงินกู้ที่เสนออัตราดอกเบี้ยตามตลาด และกระทรวงคลังค้ำประกันเงินกู้" นายอภิศักดิ์ ระบุ

ด้านนายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. ในฐานะรักษาการผู้จัดการ ธ.ก.ส. ยืนยันว่า ธ.ก.ส.ไม่หนักใจต่อการปล่อยสินเชื่อในโครงการนี้ โดยที่ ธ.ก.ส.เป็นผู้ขอกู้แทนเกษตรกร เนื่องจากกระทรวงการคลังโดย สบน.กำหนดให้ ธ.ก.ส.แยกบัญชีเป็นโครงการเพื่อสังคม(PSA) โดยกระทรวงการคลังรับผิดชอบเงินกู้ดังกล่าว ดังนั้น จึงไม่ได้ทำให้ฐานะการเงินของธนาคารเกิดความเสียหาย

ทั้งนี้ ธ.ก.ส.จะมีรายได้จากค่าบริหารจัดการในโครงการรับจำนำดังกล่าว ซึ่งหากเป็นการรับจำนำใบประทวน ธ.ก.ส.จะได้ค่าธรรมเนียม 3% ของวงเงินรับจำนำ แต่หากเป็นการรับจำนำยุ้งฉาง ธ.ก.ส.จะได้ค่าธรรมเนียม 4%

นายเอ็นนู ยอมรับว่า มีความเป็นห่วงในเรื่องการจำหน่ายสินค้าพืชผลเกษตรต่างๆ ในปัจจุบัน เนื่องจากแนวโน้มราคาพืชผลเกษตรในตลาดปรับตัวลดลง โดยล่าสุดราคาข้าวอยู่ที่ 9,000 บาท/ตัน แต่รัฐบาลเปิดรับจำนำถึง 12,000 บาท/ตัน ทำให้รัฐขาดทุนแล้ว 2,000-3,000 บาท/ตัน

"ธ.ก.ส.สบายใจ เพราะการกู้ครั้งนี้กระทรวงคลังรับผิดชอบ ดังนั้น จึงไม่เสียหายไม่ทำให้ธนาคารต้องเพิ่มทุน และคลังรับผิดชอบดอกเบี้ย การชำระคืนก็น่าพอใจ...แต่ตอนนี้แนวโน้มราคาข้าวในตลาดลดลงกว่าราคารับจำนำ ดังนั้นขึ้นอยู่กับศักยภาพของผู้ขายว่าจะจัดการอย่างไรไม่ให้ขาดทุน" รักษาการผู้จัดการ ธ.ก.ส.ระบุ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ