คณะกรรมการยุโรป ระบุว่า เศรษฐกิจยุโรปอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วในปีนี้ และจะขยายตัวน้อยมากในปีหน้า โดยคาดว่า ปีหน้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยุโรปจะดิ่งลงเหลือแค่ 0.1% ซึ่งถือเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 2536 และยังได้ลดคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ลงเหลือ 1.2% จากที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.5% เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
บลูมเบิร์กรายงานว่า เศรษฐกิจยุโรป ซึ่งต้องเผชิญกับราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์และเงินยูโรที่แข็งค่าในปีนี้นั้น คาดว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิมในปีหน้า เนื่องจากการระดมทุนที่เป็นไปอย่างลำบากของบริษัทเอกชน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและธุรกิจร่วงลง
สถานการณ์เหล่านี้ล้วนสร้างแรงกดดันให้กับผู้บริหารมากขึ้น โดยเฉพาะในการประชุมสุดยอดที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เป็นเจ้าภาพในวันที่ 15 พ.ย.นี้ ซึ่งผู้นำของยุโรเปเองจะสรุปแผนการณ์ของอียูให้ได้ก่อนการประชุมดังกล่าว
ฮัวคิน อัลมูเนีย คณะกรรมการเศรษฐกิจและการเงินอียู กล่าวว่า เศรษฐกิจทั่วโลกดำดิ่ง ขณะที่เศรษฐกิจในกลุ่มอียูได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินที่ย่ำแย่ลงในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เราจำเป็นต้องดำเนินการในลักษณะที่ร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ เหมือนกับที่ได้ร่วมมือกันช่วยเหลือสถาบันการเงินมาแล้วก่อนหน้านี้