นายคณวัฒน์ วศินสังวร เลขานุการ รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากการหารือระหว่างนายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี กับนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง มีข้อสรุปเบื้องต้นว่าไทยจะมีส่วนสมทบวงเงินในกองทุนประชาคมอาเซียนราว 7.7 หมื่นล้านบาท หรือ 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
กองทุนดังกล่าวอยู่ภายใต้ความร่วมมือของประเทศสมาชิกอาเซียน+3(จีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) ใช้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศนำส่งเข้ากองทุนดังกล่าวในวงเงินรวม 3.5 แสนล้านดอลลาร์ โดย 3 ประเทศใหญ่ของเอเชียจะส่งเงินสมทบเข้ากองทุนมากที่สุดรวมกันถึง 80% ของวงเงินรวมในกองทุน
เลขานุการ รมว.คลัง กล่าวว่า ปลายสัปดาห์นี้ รมว.คลัง จะเดินทางเข้าร่วมประชุม รมว.คลังอาเซียน+3 ที่ประเทศจีน เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับกองทุนดังกล่าว โดยหากมีข้อสรุปที่ชัดเจนกระทรวงการคลังก็จะนำเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาก่อน หลังจากนั้นจะนำผลสรุปเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ จ.เชียงใหม่ ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือน ธ.ค.51
สำหรับวัตถุประสงค์ของกองทุนประชาคมอาเซียนจะแบ่งสัดส่วนการใช้เงินกองทุนดังนี้ โดย 50% จะนำไปใช้แก้ไขปัญหาสภาพคล่องของประเทศสมาชิกอาเซียน และอีก 50% จะใช้เป็นแหล่งเงินทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค โดยกองทุนดังกล่าวจะมีรูปแบบการจัดตั้งคล้ายสถาบันการเงินระหว่างประเทศ และมีการจัดตั้งองค์กรกลางขึ้นมาดูแลบริหารจัดการกองทุน