ยอดขายรถยนต์เดือนต.ค.ในสหรัฐร่วงหนักในรอบ 7 ปี ขณะยอดขาย GM ดิ่งหนักสุด

ข่าวต่างประเทศ Tuesday November 4, 2008 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ยอดขายรถยนต์ประจำเดือนต.ค.ในสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 17 ปี ขณะที่ผู้บริโภควิตกกังวลว่า บริษัทรถยนต์ในย่านวอลล์สตรีทจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการณ์การเงินทั่วโลก ซึ่งทำให้ผู้บริหารของค่ายรถยนต์บางรายคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะถดถอยลงหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น

ข้อมูลจาก Autodata Corp.และ Ward`s AutoInfoBank บ่งชี้ว่า ยอดขายรถยนต์ของบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ร่วงลง 45% ในเดือนต.ค.ซึ่งร่วงลงหนักสุดในบรรดาค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ ขณะที่ยอดขายของฟอร์ด มอเตอร์ ร่วงลง 30% ส่วนยอดขายรถยนต์ของโตโยต้า มอเตอร์ ดิ่งลง 23% ยอดขายของฮอนด้า มอเตอร์ ร่วงลง 25% และยอดขายของนิสสัน มอเตอร์ ตกลง 33%

วิกฤตการณ์ด้านการเงินที่ลุกลามไปทั่วโลกส่งผลให้จีเอ็มตัดสินใจเจรจาควบรวมกิจการกับไครสเลอร์ แอลแอลซี เพื่อให้กิจการอยู่รอดต่อไปได้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า การเจรจาควบกิจการอาจดำเนินไปอย่างเข้มข้นมากขึ้นในสัปดาห์นี้ เพราะทั้งสองบริษัทกำลังจับตาดูว่ารัฐบาลสหรัฐจะให้ความช่วยเหลือด้านการเงินเพื่อผลักดันให้การทำข้อตกลงเสร็จสมบูรณ์

นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ป โกลบอล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า จีเอ็มและไครสเลอร์ซึ่งถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและยอดขายรถยนต์ที่ตกต่ำที่สุดในรอบ 15 ปี นอกจากนี้ จีเอ็มและไครสเลอร์จำเป็นต้องระดมทุนเพิ่มอีก 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้

"ปัญหาด้านการเงินและความขัดแย้งระหว่างบริษัทและกลุ่มสหภาพ เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้จีเอ็มและไครสเลอร์ต้องเร่งควบรวมกิจการกัน โดยสหภาพแรงงานรถยนต์แห่งสหรัฐ ได้ว่าจ้างนายสตีเฟ่น เกอร์สกี้ ที่ปรึกษาของจีเอ็มและนักวิเคราะห์ด้านรถยนต์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ให้ช่วยเหลือสหภาพในการเจรจากับจีเอ็ม" นักวิเคราะห์ซิตี้กรุ๊ปกล่าว

ไมค์ ดีจิโอวานนี ซีอีโอจีเอ็มกล่าวว่า "เห็นได้ชัดว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐกำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ พวกเราจำเป็นต้องรวมตัวกันเพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน และหาแหล่งระดมทุนที่เป็นไปได้"

อุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐตกอยู่ในภาวะผันผวนมากขึ้นเมื่อมีรายงานว่า เคิร์ก เคอร์โคเรียน มหาเศรษฐีชื่อดังเจ้าของบริษัท ทราซินดา คอร์ป และ สตีเฟ่น เฟนเบิร์ก นายใหญ่แห่งเซอร์เบอร์รัส แคปิตอล เมเนจเมนท์ แอลพี ถอนหุ้นออกจากบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ และไครสเลอร์ ซึ่งอาจทำให้ตลาดยานยนต์สหรัฐขาดที่พึ่งในการระดมทุนก้อนใหม่ๆ

ความเคลื่อนไหวของเคอร์โคเรียนและเฟนเบิร์กที่หวังถอนเงินทุนออกจากอุตสาหกรรมยานยนต์ในครั้งนี้อาจเป็นปัจจัยเร่งปฏิกิริยาให้ค่ายรถควบรวมกิจการกันมากขึ้นในขณะที่ตลาดสินเชื่ออยู่ในภาวะตึงตัว ซึ่งหมายความว่า จีเอ็ม, ไครสเลอร์ และฟอร์ดจะเผชิญกับความยากลำบากในการหาเงินทุนมาเสริมสภาพคล่อง สำนักข่าวเอพีรายงาน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ