ฮอนด้า มอเตอร์ ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น ปรับลดคาดการณ์ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐประจำปีนี้ลง 4.1% หลังจากที่เศรษฐกิจซบเซา ซึ่งถือเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 15 ปี
นายโยอิจิ โฮโจ หัวหน้าฝ่ายการเงิน คาดการณ์ว่า บริษัทจะขายรถได้ 1.51 ล้านคันในช่วง 12 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.นี้ จากเดิมที่เคยคาดไว้ว่าจะขายได้ราว 1.575 ล้านคัน
อัตราว่างงานที่พุ่งสูงและการปล่อยเงินกู้ที่เข้มงวดกว่าเดิมกดดันให้อุปสงค์รถยนต์ลดลง ดังนั้นฮอนด้าจึงตัดสินใจปรับลดคาดการณ์กำไรประจำปีลง 13% ในขณะเดียวกันยอดขายรถยนต์ของสหรัฐก็ร่วงหนักสุดในรอบ 17 ปีในเดือนต.ค.
"วิกฤตการเงินที่ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ส่งผลให้ยอดขายรถฮอนด้าในสหรัฐซบเซา" นายฮิโรฟูมิ โยโคอิ นักวิเคราะห์จากบริษัท CSM Worldwide กล่าว "ไม่มีธุรกิจใดสามารถหลุดพ้นภาวะอุปสงค์ซบเซาได้"
เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ฮอนด้ารายงานว่า กำไรไตรมาส 2 ร่วงหนักถึง 41% หลังอุปสงค์รถยนต์ในสหรัฐร่วง ในขณะที่เงินเยนก็แข็งค่าเมื่อเทียบเงินดอลลาร์ ส่งผลให้ภาคการส่งออกซบเซาลงไปอีก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 12.31 น. หุ้นฮอนด้าบวก 1% แตะ 2,425 เยนต่อดอลลาร์ ส่วนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันหุ้นฮอนด้าร่วงทั้งหมด 35%