สวิส รีอินชัวรันซ์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ได้ระงับการซื้อหุ้นคืน หลังจากที่ประสบภาวะขาดทุนในไตรมาส 3 อันเนื่องมาจากการลงทุนที่ผิดพลาดในตราสารทางการเงินที่ถูกออกแบบให้มีโครงสร้างเฉพาะ
บลูมเบิร์กรายงานว่า สวิส รี ขาดทุน 304 ล้านฟรังค์สวิส หรือ 259 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่มีรายได้สุทธิ 1.47 พันล้านฟรังค์ จากระดับปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลจดังกล่าวสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่า บริษัทจะขาดทุน 150 ล้านฟรังค์
สวิส รี ได้ลดการลงทุนในหุ้นลง และเพิ่มการทำเฮดจิ้งเพื่อรับมือกับความเสี่ยงด้านสินเชื่อบริษัทเอกชน หลังจากที่ขาดทุนในธุรกิจ credit-default swaps ประมาณ 2.8 พันล้านฟรังค์ ก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในวันนี้ การระงับการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 7.75 พันล้านฟรังค์นั้น ได้มีการดำเนินการเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว 51.2% ในช่วงสิ้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
แถลงการณ์ของบริษัทระบุว่า สวิส รี ยังคงสามารถดำเนินการได้ตามเป้าของโครงการภายในเดือนเม.ย. 2553 แต่ก็ขึ้นอยู่กับเสถียรภาพที่จะกลับคืนมาสู่ตลาดทุนด้วยเช่นกัน
บริษัทขาดทุนจากการลงทุนในตราสารทางการเงินที่ถูกออกแบบให้มีโครงสร้างเฉพาะจำนวน 289 ล้านฟรังค์ในไตรมาส 3 และย่ำว่าการขยายตัวของรายได้ต่อหุ้นที่ 10% และผลตอบแทนต่อหุ้นที่ 14% นั้นสูงเกินไป โดยคำร้องขอเอาประกันจากผู้ทำประกันที่ประสบภัยจากพายุเฮอริเคนไอค์และกุสตาฟกับบริษัทนั้นสูงถึง 365 ล้านดอลลาร์