นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมจะยังไม่ปรับลดกรอบวงเงินการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าแม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับลดลงต่อเนื่อง เพราะวงเงินที่ขออนุมัติเป็นเพียงกรอบวงเงินเท่านั้น เมื่อเปิดประกวดราคาจนถึงขั้นตอนการเปิดซองการเงินจึงจะทราบว่ามูลค่าก่อสร้างที่แท้จริงเป็นเท่าไร
และแม้ว่าที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะปรับเพิ่มกรอบวงเงินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ เป็น 3.6 หมื่นล้านบาท จาก 3.1 หมื่นล้านบาท เพราะราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงนั้น แต่เมื่อราคาน้ำมันในปัจจุบันปรับลดลง รฟม. ก็สามารถต่อรองกับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างหลังจากขั้นตอนการเปิดซองการเงิน เพื่อให้ค่าก่อสร้างเป็นราคาที่สะท้อนต้นทุนในปัจจุบัน
"การดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งอยู่ระหว่างการประกวดราคานั้น ไม่จำเป็นที่ต้องใช้วงเงินค่าก่อสร้างที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ เพราะจะต้องมีการเจรจาต่อรองราคาจนกว่าจะลงนามสัญญา ซึ่งบริษัทที่ปรึกษาจะเป็นผู้พิจารณาราคาค่าก่อสร้างที่เหมาะสม และยืนยันว่ารัฐจะไม่ยอมให้หน่วยงานเสียประโยชน์แน่นอน" นายสันติ กล่าว
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายทางอื่นที่ยังไม่ได้ประกาศประกวดราคา ก็จะมีการคำนวณค่าก่อสร้างให้เป็นปัจจุบัน โดยจะต้องเป็นราคาที่คำนวณบนต้นทุนราคา ณ ปัจจุบัน ไม่เกิน 45 วัน นับจากวันประกาศประกวดราคา ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้คำนวณราคาค่าก่อสร้างให้เป็นปัจจุบันมากที่สุด
นายสันติ ยังกล่าวถึงการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า ที่ประชุม ครม. ในวันนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณายืนยันให้ รฟม. เป็น ผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการ เนื่องจากเสนอวาระดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมไม่ทัน คาดว่าจะมีการพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป
ด้านนายเยี่ยมชาย ฉัตรแก้ว รักษาการ ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า หากสถานการณ์ราคาน้ำมันยังคงลดลงก็มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาค่าก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะต่ำกว่ากรอบวงเงินที่กำหนดไว้ ซึ่งราคาค่าก่อสร้างที่จะลงนามสัญญากันนั้น จะพิจารณาจากต้นทุนราคาวัสดุ และน้ำมัน ในช่วงเวลานั้นๆ ส่วนหากราคาวัสดุและน้ำมันมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากตกลงราคาค่าก่อสร้างก็จะมีการพิจารณาเงินชดเชยค่างานก่อสร้างแบบปรับราคาได้ หรือค่าเค ที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต