ออสเตรเลียเผยยอดเกินดุลการค้ามีการขยายตัวเกินคาดในเดือนก.ย. หลังยอดส่งออกถ่านหินและแร่เหล็กทะยานอย่างแข็งแกร่ง
สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานว่า ยอดเกินดุลการค้าออสเตรเลียขยายตัวแตะ 1.46 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนก.ย. จาก 1.24 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในเดือนส.ค. ในขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าออสเตรเลียจะมียอดเกินดุลการค้าเพียง 500 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
ยอดส่งออกที่แข็งแกร่งช่วยชดเชยความสูญเสียจากการใช้จ่ายผู้บริโภคและการใช้จ่ายภาคเอกชนที่ซบเซาอย่างหนักจนเศรษฐกิจออสเตรเลียเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย ในขณะเดียวกันผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียก็ตัดสินใจลดดอกเบี้ย 0.75% เหลือ 5.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง หลังได้รับรายงานว่าราคาบ้านร่วงหนักสุดในรอบ 30 ปีในไตรมาส 3
"เราหวังว่าการเกินดุลการค้าจะช่วยพยุงเศรษฐกิจออสเตรเลียในดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็หวังว่าเงินดอลลารออสเตรเลียที่อ่อนค่าลงจะช่วยกระตุ้นภาคการส่งออกให้ขยายตัวมากขึ้น" ไบรอัน เรดิกัน นักเศรษฐศาสตร์จาก Macquarie Group Ltd. ในซิดนีย์ กล่าว
ก่อนหน้านี้เงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงกว่า 29% จากระดับสูงสุดในรอบ 25 ปีที่ 98.49 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลียเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประเทศมีรายได้จากการส่งออกวัตถุดิบมากขึ้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11.38 น.ตามเวลาซิดนีย์ เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าแตะ 69.33 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จาก 69.19 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลียก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายงานนี้ ด้านพันธบัตรรัฐบาลระยะเวลา 2 ปีปรับตัวลดลง 0.03% เหลือ 3.94%