นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน(ทตอ.) ที่มีนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน มีมติเห็นชอบผลการทบทวนขอบเขตของสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อน ตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณารายละเอียดทางเทคนิคของสินค้าเหล็กเสนอ
คณะอนุกรรมการฯ มีความเห็นว่า เหล็กรีดร้อนสำหรับนำไปรีดเย็นต่อ ชนิดที่มีการผลิตในประเทศและมีการซื้อขายในเชิงพาณิชย์แล้ว ควรอยู่ในข่ายสินค้าที่จะพิจารณาใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด ส่วนเหล็กรีดร้อนสำหรับนำไปรีดเย็นต่อ ซึ่งเป็นชนิดที่มีปัญหาทางเทคนิคยังไม่สามารถผลิตได้ในประเทศและไม่มีการซื้อขายเป็นปกติในเชิงพาณิชย์ ไม่ควรอยู่ในข่ายการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด
"ที่ประชุมได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศไปดำเนินการทบทวนความจำเป็นในการต่ออายุการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดจาก 14 ประเทศตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนพ.ค.52" นางอภิรดี ระบุ
ช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมการ ทตอ.ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณารายละเอียดทางเทคนิคของสินค้าเหล็ก ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา โดยมีผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยเป็นประธาน เพื่อกลั่นกรองและกำหนดขอบเขตของสินค้าที่จะดำเนินการไต่สวนและใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้ประชุมและรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด ได้แก่ กลุ่มผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน, กลุ่มผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็น, กลุ่มอุตสาหกรรมต่อเนื่อง และกลุ่มผู้ใช้เหล็กแผ่นรีดร้อนที่เข้าร่วมการทดลองใช้เหล็กรีดร้อนในประเทศ เพื่อพิจารณาผลการทบทวนขอบเขตของสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนจาก 14 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น, แอฟริกาใต้, รัสเซีย, คาซัคสถาน, อินเดีย, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, เวเนซูเอลา, อาร์เจนตินา, ยูเครน, แอลจีเรีย, อินโดนีเซีย, สโลวัก และโรมาเนีย เพื่อนำไปกำหนดมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด